เมื่อวันนี้ 8 ธ.ค. 63 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นางมาวดี ศรีวิรัตน์ ลูกสาว อาม่าฮวย และ นายกฤษฎา อินทามระ ทนายความ นำหลักฐาน เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ไพรัตน์ เทศพานิช เลขานุการกรม ในฐานะโฆษก ปปง. เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน การสืบสวนและสั่งคดีของตำรวจและอัยการ หลัง นางมาวดี ถูกอาม่าฮวย แม่แท้ๆ กล่าวหาว่าลักทรัพย์ 247 ครั้ง รวม 250 ล้านบาท ทั้งที่ไม่เป็นความจริง โดยคดีมีการดำเนินการอย่างเร่งรัด ส่อไปในลักษณะกลั่นแกล้ง
นายกฤษฎา กล่าวว่า คดีดังกล่าวกระบวนการสืบสวนสอบสวนและสั่งฟ้องของตำรวจและพนักงานอัยการ ดำเนินการเร่งรีบสรุปสำนวนและด่วนสรุปกล่าวหาว่า นางมาวดี มีพฤติกรรมลักทรัพย์อย่างต่อเนื่องรวม 245 ครั้ง โดยขณะนี้คดีอยู่ในชั้นศาล อีกทั้ง เมื่อช่วงเดือน ก.พ.63 ทีมกฎหมาย อาม่าฮวย ได้ร้องทุกข์ ปปง. เอาผิดฐานฟอกเงินกับลูกสาว ซึ่งกำลังพิจารณาตามขั้นตอน แต่ล่าสุดได้พบหลักฐานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการถูกร้องเรียน นับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้ว่า การลักทรัพย์ถึง 245 ครั้ง ตามที่ถูกกล่าวหานั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และพยานหลักฐานแสดงให้เห็นว่า อาม่าฮวย เป็นผู้ถอนเงินหรือลงชื่อสั่งจ่ายเช็คถอนเงินออกจากบัญชีไปด้วยตนเองกว่า 50 ฉบับ และมีเช็คจำนวนหนึ่งที่ยืนยันได้ว่าอยู่ในกระบวนการสรุปสำนวนสั่งฟ้อง
นายกฤษฎา กล่าวอีกว่า การมาร้องเรียน ปปง.นั้น ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ดำเนินการอย่างเร่งรีบ รวบรัดและอาจมีกลั่นแกล้งใส่ร้าย นางมาวดีด้วย เห็นได้จากเช็คจำนวนหลายฉบับที่ นางมาวดี ถูกกล่าวหาว่าลักทรัพย์ อาทิเช่น เช็คจำนวน 4 ฉบับ อาม่าฮวย เป็นผู้ลงชื่อสั่งจ่ายเองโดยจ่ายเป็นค่าแก๊สให้แก่ร้านแก๊ส คือ กรรมที่ 16 เมื่อวันที่ 10 มี.ค.57 ถูกแจ้งความลักทรัพย์ จำนวน 14,940 บาท หรือ กรรมที่ 23 เมื่อวันที่ 8 เม.ย.57 ก็ถูกแจ้งความลักทรัพย์อีก 15,300 บาท ซึ่งจริงแล้ว อาม่าฮวย ลงชื่อถอนเงินจากธนาคารไปจ่ายค่าแก๊สเสียเอง เป็นต้น และเช็ค 2 ฉบับ อาม่าฮวยก็ลงชื่อสั่งจ่ายเองโดยถอนเงินสดไปเข้ากระเป๋าตัวเอง รวมทั้ง ยังมีเช็คอีก 1 ฉบับที่อาม่าฮวยลงชื่อสั่งจ่ายให้แก่ กรุงเทพมหานคร เป็นเงินกว่า 1 แสนบาทด้วยเป็นค่าภาษี คือ กรรมที่ 27 วันที่ 25 เม.ย.57 อาม่าฮวย ถอนเงินไปจ่ายค่าภาษีให้กรุงเทพมหาคร จำนวน 121,850 บาท ซึ่งเช็คพวกนี้อาจเป็นปัญหาตามมาว่าหากนางมาวดี ทำผิดจริงข้อหาฟอกเงินและกรุงเทพมหานคร จะมีความผิดในฐานะรับเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดฐานฟอกเงินหรือไม่
"วันนี้จึงต้องเข้าชี้แจงต่อ สำนักงาน ปปง.ในประเด็นดังกล่าวโดยจะมอบสำเนาเช็คจำนวนเกือบ 300 ฉบับ เพื่อแสดงเส้นทางการเงินว่าไม่ได้มีการลักทรัพย์เป็นปกติธุระเพื่อมอบให้ เลขาธิการ ปปง.พิจารณาว่าจะรับเรื่องนี้ไว้เป็นคดีฟอกเงินหรือไม่ ต่อไป" นายกฤษฎา กล่าว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ ปปง. รับเรื่องไว้ตรวจสอบพยานหลักฐานใหม่และดำเนินการพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย