ยายหวิดตาบอด งูเห่าพ่นพิษใส่ดวงตา ขณะเลื้อยเข้าบ้านเตรียมกัดแมว
เตือนภัย หน้าฝน! วันที่ 10 ส.ค.2563 ยายบัวหวั่น สำลี อายุ79ปีถูกงูเห่าที่เลื้อยเข้าไปในบ้าน
พ่นพิษใส่ตาจนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่บ้าน หมู่ 2 ต.รำมะสักอ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เป็นบ้านของยายบัวหวั่นขณะนอนพักรักษาตัวอยู่ภายในบ้าน หลังถูกงูเห่าพ่นพิษใส่ตาทั้งสองข้างแดงช้ำ และมีรอยไหม้ที่ขอบตา
ยายบัวหวั่น เล่าว่า อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวตามลำพัง เลี้ยงแมวไว้6ตัว เมื่อเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะนอนอยู่บนบ้าน ได้ยินเสียงแมวร้องขู่อยู่ใต้ถุนบ้าน จึงก้มลงไปดูก็พบกับงูสีน้ำตาลดำ อยู่ในกะละมังพลาสติกที่เก็บของไว้งูแผ่แม่เบี้ยขู่แมว ตนจึงค่อยๆ เลื่อนกะละมังออก แล้วไปหยิบฉมวกกับฆ้อนมาเตรียมไว้ เมื่อนำงูออกจากถัง จึงใช้ฉมวกแทงที่กลางลำตัว ก่อนที่จะก้มไปใช้ฆ้อนทุบให้ตาย เพราะเกรงว่าจะเข้ามาทำร้ายตน แต่จังหวะนั้น
งูพ่นพิษใส่เข้าที่ดวงตา จนรู้สึกแสบร้อน ด้วยความตกใจ จึงรีบโทรศัพท์ไปหาลูก ซึ่งอยู่ไม่ห่างกันเพื่อให้พาไปส่งโรงพยาบาล โดยไม่ลืมเอาซากงูติดไปด้วย
ด้านนายจิรวัฒน์ เอี่ยมละม้าย อาสาสมัครพิทักษ์งู มูลนิธิมิราเคิลออฟไลซ์เปิดเผยว่า งูเห่าพ่นพิษที่พบใประเทศไทยมี3ชนิด แยกตามลักษณะสีของตัวงู คือ งูเห่าด่างพ่นพิษ,งูเห่าน้ำตาลพ่นพิษ และงูเห่าดำพ่นพิษ ซึ่งกรณีนี้เป็นงูเห่าด่างพ่นพิษ พบได้ทั่วไปใน จ.อ่างทอง พร้อมย้ำเตือนว่า หากพบเห็นงูลักษณะดังกล่าว ควรอยู่ห่างอย่างน้อยประมาณ3เมตร เพราะงูเห่าสามารถพ่นพิษได้ถึง2เมตร ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝน งูประเภทนี้จะออกหากินในช่วงเช้ามืดและช่วงพลบค่ำ ซึ่งหากพบเจอขอให้ออกให้ห่าง แล้วรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาดำเนินการ