17 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 กันยายน ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลังได้ลงนาม ประกาศพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๗๘๐) พ.ศ. ๒๕๖๖ โดยประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๖
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๖ เป็นปีที่ ๘ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๗๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๘๐ แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล รัษฎากร (ฉบับที่ ๓๐) พ.ศ. ๒๕๓๔ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า "พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๗๘๐) พ.ศ. ๒๕๖๖"
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ เป็นต้นไป
มาตรา ๓ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๔ แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวล รัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๖๔๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๗๒๔) พ.ศ. ๒๕๖๔ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา ๔ ให้ลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา ๘๐ แห่งประมวลรัษฎากร และคงจัดเก็บ ในอัตราร้อยละหกจุดสาม ส าหรับการขายสินค้า การให้บริการ หรือการน าเข้าทุกกรณี ซึ่งความรับผิด ในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๗ ”
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
สำหรับ เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชกฤษฎีกาออกตามความ ในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๖๔๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๗๒๔) พ.ศ. ๒๕๖๔ ได้กำหนดให้ลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา ๘๐ แห่งประมวลรัษฎากร เหลืออัตรา ร้อยละหกจุดสามเป็นการชั่วคราว สำหรับการขายสินค้า การให้บริการ หรือการนำเข้าทุกกรณี ซึ่งความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๖
เพื่อเป็นการสนับสนุนการฟื้นตัวของการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ และบรรเทาภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นทางธุรกิจให้แก่ภาคเอกชน สมควรขยายเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มเหลือร้อยละหกจุดสาม ออกไปจนถึงวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๗ จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
คลิกอ่านฉบับเต็ม >>>
พระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๗๘๐) พ.ศ. ๒๕๖๖