ตร.ศรีเทพ แจ้ง 3 ข้อหาหนัก "ไอ้เผือก" มือยิงแฟนสาว ลูกร้านอาหารดัง

19 มิถุนายน 2566 ความคืบหน้า นายชาญณรงค์ กิ่งคำ อายุ 35 ปี ใช้อาวุธปืนยิง น.ส.อนัญญาพร พลอินทร์ หรือ เกด อายุ 23 ปี แฟนสาว ซึ่งเป็นลูกสาวของ "ร้านครัวคุณเกรียง" ร้านอาหารชื่อดังของ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ เสียชีวิตข้างรถยนต์ส่วนตัว ขณะที่พ่อตาและแม่ยายได้รับบาดเจ็บ 

หลังก่อเหตุ นายชาญณรงค์ ได้หลบหนีและโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า "ชาติหน้ามีจริง พี่ขอเกิดมาเป็นผัวเมียกันอีก อย่าให้มีพ่อตาใจร้าย กีดกันความรัก" ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• หนุ่มบุกยิงแฟนสาวดับ โพสต์เฟซบุ๊กตัดพ้อ "พ่อตาใจร้าย กีดกันความรัก" 

ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ต.ฐเดช กล่อมเกลี้ยง ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า นายชาญณรงค์ ผู้ต้องหา ได้เข้ามอบตัวที่ สภ.ศรีเทพ หลังก่อเหตุ ยิงแฟนสาวจนเสียชีวิตและขับรถยนต์ กลับไปที่บ้าน ใน ต.ชอนสมบูรณ์ อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี และนำอาวุธปืนไปโยนทิ้ง ในสระน้ำของน้าชายข้างบ้าน และได้จอดรถยนต์ไว้ที่บ้านพัก ส่วนเสื้อที่ใส่ก่อเหตุ ได้ถอดเก็บไว้ในรถยนต์คันก่อเหตุ 

เบื้องต้น นายชาญณรงค์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนสาเหตุเนื่องจากโกรธแค้นบิดาของฝ่ายหญิง ที่พยายามกีดกันให้เลิกคบหากันกับผู้ก่อเหตุ และที่เข้ามามอบตัวกับตำรวจ เนื่องจากสำนึกผิด และตั้งใจจะบวชอุทิศบุญส่วนกุศลให้แด่ผู้เสียชีวิตเมื่อพ้นโทษออกมา

ต่อมาช่วงบ่าย พนักงานสอบสวน สภ.ศรีเทพ ได้นำตัว นายชาญณรงค์ หรือ เผือก (ผู้ต้องหา) มาตรวจค้นหาอาวุธปืนของกลางที่ใช้ก่อเหตุ ที่ผู้ต้องหาอ้างว่า นำมาโยนทิ้งภายในบ่อหลังบ้าน ซึ่งอยู่ห่างกันจากบ้านประมาณ 500 เมตร

อย่างไรก็ตาม จากการค้นหาโดยทีมนักประดาน้ำ ของมูลนิธิร่วมกตัญญู จำนวน 5 คน ที่ลงค้นหาภายในบ่อน้ำ ซึ่งมีน้ำลึกประมาณ  2 เมตร  นานกว่า 3 ชั่วโมง แต่ก็ยังไม่พบอาวุธปืนของกลางตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง 

ขณะที่ นายชาญณรงค์ ยืนยันว่า นำอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ นำมาโยนทิ้งในบ่อน้ำดังกล่าวจริง โดยยืนอยู่บนถนน แล้วขว้างอาวุธปืน ที่ก่อเหตุอย่างสุดแรง ลงไปในบ่อน้ำ

ทีมข่าวรายงานว่า สำหรับนายชาญณรงค์ ( หรือ เผือก หรือ รงค์ ) ส่วนใหญ่ชาวบ้านในพื้นที่ จ.ลพบุรี จะเรียกว่า "เผือก"  เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้ง 3 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร