svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

พลิกปูม"เอ๋ ชนม์สวัสดิ์" บุคคลแถวหน้า สืบสาน"บ้านใหญ่อัศวเหม"รุ่นที่สอง

31 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

นับเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญของบุคคลในแวดวงทางการเมืองของสมุทรปราการ "เอ๋ ชนสวัสดิ์" นักธุรกิจและนักการเมืองในตระกูลการเมือง "บ้านใหญ่อัศวเหม"เป็นการสูญเสียก่อนการ"เลือกตั้ง66"กำลังมาถึง

31 มีนาคม 2566  นับเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญของบุคคลในแวดวงทางการเมือง เมื่อ "เอ๋ ชนม์สวัสดิ์  อัศวเหม" ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ และนักธุรกิจชื่อดัง เสียชีวิตอย่างสงบ ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์  

ภายหลังจากถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลบุรีรัมย์อย่างเร่งด่วน จากอาการ ฮีทสโตรก หรือโรคลมแดด เนื่องจากอากาศร้อนจัด ขณะซ้อมแข่งรถยนต์ ที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ทั้งนี้ทางครอบครัวและญาติ จะนำร่างกลับมาที่กรุงเทพฯ ในวันนี้(31 มีนาคม 2566 )

 

นอกจาก ความเป็นนักธุรกิจชื่อดังที่ประสบความสำเร็จ ด้านอสังหาริมทรัพย์ ด้านธุรกิจการเกษตร และด้านน้ำมันเชื้อเพลิง เคยดำรงตำแหน่งประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ  แต่ในทางการเมือง "เอ๋  ชนม์สวัสดิ์  อัศวเหม" ถือได้ว่าเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญ ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ จากการสานต่องานทางการเมืองจากรุ่นพ่อ "วัฒนา อัศวเหม" สมัยที่มีการกล่าวขานกันว่าเป็น "เจ้าพ่อปากน้ำ" 

ต้นตระกูลการเมือง "บ้านใหญ่อัศวเหม" หรือ "บ้านใหญ่ม้าทองคำ" แห่งสมุทรปราการ อีกหนึ่งกลุ่มตระกูลการเมืองที่มีบทบาทมากในอดีตเริ่มจาก "วัฒนา  อัศวเหม" จากธุรกิจน้ำมัน แล้วมาเล่นการเมืองกลายเป็นต้นกำเนิดของ"บ้านใหญ่ปากน้ำ" 

วัฒนา อัศวเหม  บิดา นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม  หรือต้นตระกูลบ้านใหญ่ปากน้ำ

เครือข่ายการเมืองสมุทรปราการ จากรุ่นพ่อ "วัฒนา  อัศวเหม" เข้าสู่เส้นทางการเมืองตั้งแต่ปี 2518  มีบุคคลที่อยู่ในระดับครูการเมืองขณะนั้น ไม่ว่าเป็น"สังข์ พัธโนทัย" ที่ปรึกษาคนสนิท จอมพล. ป.พิบูลสงคราม  "มั่น พัธโนทัย" อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กระทั่ง"นายวัฒนา" ตกเป็นผู้ต้องหาคดีทุจริตโครงการบ่อบัดน้ำเสีย คลองด่าน สมุทรปราการ และหลบหนีไปต่างประเทศก่อนศาลมีคำพิพากษา  

จากนั้น การเมืองสมุทรปราการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่รุ่นที่สอง เมื่อ"เอ๋ ชนม์สวัสดิ์" เข้ามารับไม้ต่อ โดย "เอ๋ ชนม์สวัสดิ์" เป็นลูกชายคนที่สามของวัฒนา โดยพี่ชาย 2 คนคือ "พิบูลย์" ดูแลธุรกิจน้ำมันของครอบครัว และ"พูนผล" ที่เล่นการเมืองเคียงข้างประมุขบ้านม้าทองคำ (พูนผล เสียชีวิตเมื่อปี 2558) 

จุดเริ่มสู่ตำแหน่งการเมืองท้องถิ่น เมื่อปี 2542 เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีนครสมุทรปราการ  เคยลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ต่อมาถูกสั่งปลดตามคำสั่งหัวหน้า คสช. เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เมื่อมีการเลือกตั้งอบจ.ใหม่ ปรากฎว่า "นันทิดา แก้วบัวสาย" อดีตภรรยา ได้รับเลือกตั้ง 

พลิกปูม"เอ๋ ชนม์สวัสดิ์" บุคคลแถวหน้า สืบสาน"บ้านใหญ่อัศวเหม"รุ่นที่สอง

 

 

ก่อนหน้านี้ "ชนม์สวัสดิ์" เคยเป็นกรรมการบริหารพรรคมหาชน เป็นกรรมการบริหารพรรคเพื่อแผ่นดิน ลงสมัครรับเลือกตั้งในปี 2550 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง ต่อมาได้เป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ในปี 2551 และในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2562 เขาให้การสนับสนุนผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ

"ชนม์สวัสดิ์" เคยถูกจำคุกในคดีทุจริตการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครสมุทรปราการ ปี 2542 ซึ่งศาลฎีกาตัดสินเมื่อ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ต่อมาได้รับการพระราชทานอภัยโทษตามมาตรา 8 (3) ของพระราชทานอภัยโทษพระราชกฤษฎีพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งได้ลดวันต้องโทษ 1 ใน 4 ของโทษที่เหลือ เมื่อ 7 กันยายน พ.ศ. 2559

เอ๋ ชนม์สวัสดิ์  อัศวเหม อดีตนายกอบจ.สมุทรปราการ

การสูญเสียของคนตระกูลการเมือง"อัศวเหม"นั้น เป็นเหตุการณ์สำคัญเมื่อปี 2558 "พูนผล อัศวเหม" หัวใจล้มเหลวเสียชีวิตที่บ้านพัก อายุ 48 ปี และ ล่าสุดปี 2566 "ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม" เกิดอาการฮีทสโตก และไปเสียชีวิตที่ รพ. อายุ 55 ปี                                                       

logoline