ท้าชน! "ชูวิทย์" ซัด "สันธนะ" มีโอกาสรอดยากหลังพิงบ่อนพิงบาร์
"ชูวิทย์" ปิดปากไม่ขอยุ่งประเด็นการเมือง ปมคนชอบสะสมนาฬิกา ยืนยันคนนี้เป็นศูนย์กลางอำนาจ เตือน "สันธนะ" มวยคนละชั้นอย่าคิดสู้ ตนหลังพิงกำแพงเหล็ก เดินหน้า แฉรัฐเอี่ยว ขบวนการ "อุ้มท้องซื้อพ่อ" ภายในสิ้นปีนี้
8 ธันวาคม 2565 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง กล่าวภายหลังเข้าชี้แจงคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร หรือ (กมธ. ป.ป.ช.) ที่มีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เป็นประธาน หลังยื่นคำร้องให้คณะกรรมาธิการฯ ตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล โดยในที่ประชุมมีการถามถึงบุคคลที่นายตู้ห่าว มอบนาฬิกาให้เป็นคนชอบสะสมนาฬิกา
โดยนายชูวิทย์ กล่าวว่า ตนจะขอพูดเพียงความเกี่ยวพัน เนื่องจากพฤติกรรมของนายตู้ห่าว จะเจริญเติบโตรวดเร็วอย่างไร ถ้าไม่มีคอนเน็คชั่น ตนไม่ได้ต้องการให้เป็นประเด็นการเมือง แต่การที่ตนเปิดเผยเรื่องนี้ออกมาเพื่อ อยากให้เห็นพฤติกกรรมว่าไม่ใช้บันได แต่ใช้ลิฟท์ในการขึ้นสู่อำนาจ ตนพูดเยอะไม่ได้ และข้อมูลบางอย่างเป็นความลับในชั้นกรรมาธิการ ไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งการขึ้นถึงอำนาจก็ย่อมใกล้ชิดกับศูนย์กลางอำนาจ และคงไม่ใช่อดีตตำรวจ คงต้องเป็นคนที่ยังอยู่ในตำแหน่ง ต้องเป็นคนที่มีอำนาจวาสนา แต่ตนไม่ขอเอ่ยชื่อ หรือพาดพิง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ส่วนนายสันธนะ ต้องมาให้ข้อมูลเหมือนที่ตนมา เพราะต้องมีการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ถ้าสื่อมวลชนอยากให้ปะทะ ตนก็ยินดี ตอนนี้นายสันธนะ หลังพิงบ่อนพิงบาร์ แต่ตนหลังพิงกำแพงเหล็ก ตนไม่มีทางล้ม และไม่ปฏิเสธว่ามีคนอยู่เบื้องหลัง ซึ่งคนที่อยู่เบื้องหลังคือกำแพงเหล็ก นายสันธนะ ต้องคิดถึงตัวเองว่าจะเดินต่อไปอย่างไร ถ้าคิดจะสู้กับคนอย่างตน จะรอดหรือเปล่า จะสู้ตนด้วยอะไร เพราะนายสันธนะ ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง ตนและนายสันธนะ เรียกว่ามวยคนละชั้น เพราะตนทำมาหมดแล้ว แต่นายสันธนะโดนไล่ออกจากราชการ ตนยืนยันว่าสิ่งที่ตนพูดเป็นความจริงทุกประการ
นายชูวิทย์ ยังเปิดเผยถึงจิ๊กซอว์สำคัญที่ต้องตามต่อ ว่า ภายในสิ้นปีนี้ตนจะเปิดกระบวนการที่ชื่อว่า "อุ้มท้องซื้อพ่อ" ซึ่งเป็นกระบวนการที่ทำลายความมั่นคงของชาติในระยะยาว และกระบวนการดังกล่าวเริ่มต้นแล้วที่ จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีหน่วยงานรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องแน่นอน แต่จะเป็นความละเลยหรือเต็มใจรับผลประโยชน์ นี่คือจิ๊กซอว์สำคัญที่ต้องหาคำตอบ
"คนอย่างผมเมื่อเปิดเผยแล้วจะเปิดชื่อหน่วยงานด้วยโดยไม่มีกั๊ก ผมไม่มีอะไรที่จะพูดกำกวมเหมือนนายสันธนะหรอก ลักษณะตนเป็นการพูดชัดกระชับและตรงเป้า และรับผิดชอบคำพูดของตนเองไม่ใช่นายสันธนะที่พูดสอง แง่สองง่าม แล้วให้ไปนั่งเดาเอาเอง เพื่อหลีกเลี่ยงข้อกฎหมาย" นายชูวิทย์ ระบุ