เกาหลีใต้ขาดแคลนน้ำมัน หลังคนขับรถบรรทุกสไตรก์ยืดเยื้อ

ข้อมูลจากบริษัทน้ำมันแห่งชาติเกาหลีของเกาหลีใต้ ระบุว่า จนถึงบ่ายวันจันทร์ สถานีบริการน้ำมันเกือบ 100 แห่งไม่มีน้ำมันจำหน่ายแล้ว และเกือบ 60% ของสถานีบริการน้ำมันเหล่านี้อยู่ในกรุงโซล และจังหวัดคยองกี

การขาดแคลนน้ำมันในขณะนี้ส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วนนอกเหนือจากภาคอุตสาหกรรม เช่น คนขับรถส่งอาหารจำนวนมากไม่สามารถเติมน้ำมันได้ทุกที่ทุกเวลา ทำให้รับส่งอาหารได้น้อยลงและรายได้ลดลงตามไปด้วย ส่วนคนขับรถยนต์ต้องพกถังพลาสติกขนาด 12 ลิตรไว้เผื่อเติมน้ำมันล่วงหน้าเมื่อเจอปั๊มน้ำมันที่ยังมีน้ำมันจำหน่าย

สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากคนขับรถบรรทุกเริ่มผละงานประท้วงเมื่อวันที่ 24 พ.ย. เพื่อเรียกร้องการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ โดยมีการเจรจาระหว่างสหภาพแรงงานและรัฐบาล  2 รอบแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า

คนขับรถบรรทุกราว 25,000 คน ที่ร่วมหยุดงานประท้วง ต้องการให้รัฐบาลกำหนดระบบค่าจ้างขั้นต่ำอย่างถาวร ที่เรียกว่า อัตราค่าระวางปลอดภัย เพื่อบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น ในขณะที่การประกันค่าระวางขั้นต่ำชั่วคราว ที่เริ่มใช้ในปี 2563 กำหนดสิ้นสุดในสิ้นปีนี้  

แต่รัฐบาลของประธานาธิบดี ยุน ซอก-ยอล ยืนยันไม่ยอมรับข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงาน และจะขยายระบบประกันค่าระวางขั้นต่ำที่ใช้อยู่ในขณะนี้ออกไปอีก 3 ปี

นอกจากนี้ประธานาธิบดียุน มีคำสั่งเมื่อวันอาทิตย์ให้เตรียมพร้อมออกคำสั่งให้คนขับรถบรรทุกในส่วนโรงงานกลั่นน้ำมัน และโรงงานผลิตเหล็ก กลับเข้าทำงาน ก่อนหน้านี้ในสัปดาห์ที่แล้ว เขาออกคำสั่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศให้คนขับรถบรรทุก 2,500 คนในอุตสาหกรรมซีเมนต์ที่ผละงานประท้วง กลับเข้าทำงาน หากใครฝ่าฝืนคำสั่งจะมีโทษปรับสูงถึง 22,500 ดอลาร์

แต่สหพันธ์สหภาพแรงงานเกาหลี (KCTU) ที่มีสหภาพแรงงานคนขับรถบรรทุกเป็นสมาชิก วิจารณ์ว่า คำสั่งกลับเข้าทำงานเทียบเท่ากับการประกาศกฎอัยการศึก และเรียกร้องให้รัฐบาลเลือกใช้วิธีการเจรจา นอกจากนี้ KCTU กำหนดผละงานประท้วงในวันอังคารเพื่อสนับสนุนการประท้วงของคนขับรถบรรทุกด้วย

การผละงานประท้วงของคนขับรถบรรทุกในขณะนี้เป็นครั้งที่ 2 ในเวลาไม่ถึง 6 เดือน และกระทรวงอุตสาหกรรม รายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่า การสไตรก์ทำให้ห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงัก และสร้างความเสียหายต่อการขนส่งสินค้ามากกว่า 2,440 ล้านดอลลาร์ในช่วง 10 วันแรกของการหยุดงานประท้วง และความเสียหายจะเพิ่มมากขึ้นในหลากหลายอุตสาหกรรม แต่คำสั่งกลับเข้าทำงานช่วยให้การขนส่งตามท่าเรือดีขึ้นอยู่ในระดับ 69% จากช่วงก่อนการสไตรก์แล้ว