svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

ตร.รวบสาวเมียนมาสุดแสบ สวมบัตร-ชื่อไทย อ้างหากินทำธุรกิจ

02 ธันวาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

คนไทยแน่นะวิ! ตร.รวบสาวเมียนมาสุดแสบ สวมบัตร-ชื่อไทย สาวพิการ ใช้อ้างหากินทำธุรกิจ พร้อมฟันเจ้าหน้าที่อำเภอที่ออกบัตรให้ตามมาตรา 157

2 ธันวาคม 2565 ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. แถลงการจับกุม น.ส.แนน มัน สัญชาติเมียนมา ที่ก่อเหตุ แอบอ้างใช้ข้อมูลของคนไทย ในการขอมีบัตรประจำตัวประชาชน และได้นำเอาบัตรประจำตัวประชาชน ที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย นำไปแสดงตน และติดต่อกับหน่วยงานรายการต่าง ๆ และทำนิติกรรมต่าง ๆ เสมือนเป็นคนไทย

โดยผู้ต้องหา ได้แสดงตนใช้ชื่อ น.ส.พนิดา สุขพยอม พร้อมนำบัตรประจำตัวประชาชน ไปแจ้งเกิดบุตรที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เมื่อ 15 มิ.ย. 57 แต่ไม่ได้ระบุชื่อบิดาผู้ให้กำเนิด ทั้งนี้ตัวผู้ต้องหา ไม่สามารถพูดภาษาไทย หรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติของตนเองได้ เมื่อตรวจสอบฐานข้อมูลจึงพบว่า เอกสารที่ใช้เป็นหลักฐาน เป็นแบบพิมพ์สูติบัตร ที่ออกด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งยังไม่มีการใช้ในช่วงเวลาดังกล่าว

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.
 

ขณะที่มารดาของ น.ส.พนิดา ตัวจริง ให้การชัดเจนว่า น.ส.พนิดา เป็นบุคคลพิการมาตั้งแต่กำเนิด อยู่ในความดูแลของมารดา ที่สำคัญคือ น.ส.พนิดา ตัวจริง ยังไม่เคยขอมีบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งเมื่อมารดาของ น.ส.พนิดา ได้เห็นภาพบุคคล ที่มาขอบัตรประชาชนของ น.ส.พนิดา จึงยืนยันว่าไม่ใช่ย่างแน่นอน และไม่เคยรู้จักมาก่อน 

ทั้งนี้ จึงเชื่อได้ว่า มีกระบวนการช่วยเหลือให้บุคคล ซึ่งมิใช่สัญชาติไทย สามารถมีบัตรประจำตัวประชาชนไทย โดยมีการนำข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของคนพิการ สัญชาติไทย มาใช้ในการทำบัตรประจำตัวประชาชนโดยผิดกฎหมาย หรือ การสวมบัตร 

 

ตร.รวบสาวเมียนมาสุดแสบ สวมบัตร-ชื่อไทย อ้างหากินทำธุรกิจ
 

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินคดีกับ นายชัยพัฒน์ อ่วมอินทร์ เจ้าหน้าที่ของที่ว่าการอำเภอโคกสูง จ.สระแก้ว ผู้อนุญาตให้ออกบัตรประจำตัวประชาชนให้กับบุคคลดังกล่าว ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่งหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต 

ส่วนสาวเมียนมารายนี้ ถูกดำเนินคดีฐาน "แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ และยื่นคำขอมีบัตรโดยมิได้มีสัญชาติไทย ด้วยการแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความต่อเจ้าพนักงาน" มีการดำเนินคดีที่ สภ.โคกสูง จ.สระแก้ว ปัจจุบันสำนวนการสอบสวน อยู่ในความรับผิดชอบของ ป.ป.ท.

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สำหรับสาวเมียนมารายนี้ ยังพบว่า มีการแสดงตนตามสื่อสังคมออนไลน์ และเว็บไซต์ต่าง ๆ ว่า เป็นผู้บริหารของ บริษัท ทีซีเอ็ดดูเคชั่น จำกัด ทำธุรกิจให้บริการการศึกษา แก่ชาวต่างชาติ ที่ต้องการศึกษามหาวิทยาลัยในประเทศไทย มีการทำบันทึกข้อตกลง (MOU) กับมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ในประเทศไทย เพื่อชักชวนให้ชาวต่างชาติ เข้ามาติดต่อและสามารถใช้ประโยชน์ ในการขออนุญาตอยู่ต่อในราชอาณาจักรไทย 

นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า มีการนำบัตรประชาชน ไปขอทำหนังสือเดินทาง ที่กรมการกงสุล เพื่อใช้เดินทางเข้าออกในประเทศไทย มีการดำเนินคดีที่ สน.ทุ่งสองห้อง และได้ออกหมายจับไว้เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา ก่อนที่วันต่อมา ตำรวจจะสามารถจับกุมได้ ที่หมู่บ้านกลางกรุงสาทร

เมื่อเข้าตรวจค้นที่ทำการของ บริษัท ทีซีเอ็ดดูเคชั่น จำกัด ตั้งอยู่ภายใน ตึกไทยซีซี ทาวเวอร์ (อาคารหอการค้าไทย-จีน) ถ.สาทรใต้ ทำให้ทราบข้อมูลว่า ผู้ต้องหา นำข้อมูลบัตรประชาชนของแม่บ้าน ที่เป็นคนไทย นำไปใช้ก่อตั้งบริษัทดังกล่าว โดยที่แม่บ้านไม่ทราบ มีการแจ้งความดำเนินคดีในความผิดฐาน ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสียหรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ ซึ่งเอกสารใดของผู้อื่นในประการที่น่าจะให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และ ฉ้อโกง ที่ สน.บางรัก


รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า หลังพบการกระทำผิด เกี่ยวกับการสวมบัตรประชาชนคนไทยแล้ว ตนได้สั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง จนพบว่า มีชาวต่างชาติที่ใช้ช่องทางผิดกฎหมาย ในการสวมบัตรคนไทย เพื่อมาทำนิติกรรม และดำเนินธุรกิจในประเทศไทย มีการเตรียมเปิดตัวเป็นนายหน้า ในการหาสถานศึกษา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับชาวต่างชาติ ในการใช้เป็นหลักฐาน ในการขออนุญาตอยู่ต่อในราชอาณาจักรไทย 

ดังนั้น จะต้องมีการตรวจสอบ บุคคลที่จะเข้ามาในประเทศไทย หรือจะขออนุญาตอยู่ต่อในประเทศ โดยจะมีการขยายผลอย่างต่อเนื่อง หากพบการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าวอีก ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องหรือเจ้าหน้าที่รัฐ จะดำเนินคดีโดยเด็ดขาดต่อไป

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.

logoline