svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

เผยแนวทางรักษาโควิด “ผู้ป่วย 3 โรค” เข้าถึงยาภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป ง่ายขึ้น

30 พฤศจิกายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กระทรวงสาธารณสุข โดย กรมการแพทย์ ปรับปรุงแนวทางรักษาโรคโควิด-19 ฉบับที่ 26 ปรับแนวทางรักษาผู้ป่วยที่ติดโควิด-19  “ผู้ป่วย 3 โรค” ลดโอกาสอาการรุนแรง เข้าถึงยาต้านไวรัสง่ายขึ้น เพิ่มภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (LAAB) ง่ายขึ้น รายละเอียดเป็นอย่างไร อ่านได้ตรงนี้ 

30 พฤศจิกายน 2565 กระทรวงสาธารณสุข โดย กรมการแพทย์ ปรับปรุงแนวทางรักษาโรคโควิด-19 ฉบับที่ 26 ซึ่งผ่านการพิจารณาของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านสาธารณสุข (อีโอซี) กรณี โควิด-19 แล้ว คาดว่าจะประกาศใช้ในวันนี้ 30 พ.ย.2565

โดยฉบับล่าสุดที่มีการปรับเปลี่ยน ระบุรายละเอียดไว้ดังนี้

1.กลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง ไม่มีปอดอักเสบ ไม่มีปัจจัยเสี่ยงเป็นโรครุนแรง จากเดิมที่มีรายละเอียดมาก ก็ปรับให้เป็นการดูแลรักษาแบบผู้ป่วยนอก ปฏิบัติตนตาม DMHT อย่างน้อย 5 วัน ให้การดูแลรักษาตามอาการตามดุลยพินิจแพทย์ หากต้องให้ยาต้านไวรัสก็อาจให้ยาโมลนูพิราเวียร์ หรือยาฟาวิพิราเวียร์ในเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี

เผยแนวทางรักษาโควิด “ผู้ป่วย 3 โรค” เข้าถึงยาภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป ง่ายขึ้น

2.ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงแต่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง หรือไม่มีปัจจัยเสี่ยง แต่มีปอดอักเสบเล็กน้อยถึงปานกลางที่ยังไม่ต้องให้ออกซิเจน ได้ปรับเกณฑ์ปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง เพื่อให้เข้าถึงยาต้านไวรัสได้สะดวกขึ้นใน 3 กลุ่ม คือ

 1.โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังรวมโรคปอดเรื้อรังอื่นๆ ในระยะ 2 ขึ้นไป 

 2.โรคหัวใจและหลอดเลือด Class 2 ขึ้นไป 

 3.โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ ปรับเป็นไม่มีระยะของโรคและเป็นโรคเบาหวานธรรมดา แพทย์สามารถให้ยาตามดุลยพินิจได้ สำหรับการให้ยาต้านไวรัสในกลุ่มนี้ ได้เพิ่มภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (LAAB) เข้ามาด้วย ซึ่งอาจให้ LAAB ตัวเดียวหรือให้ร่วมกับยาต้านไวรัสตัวอื่นก็ได้ตามอาการหรือตามดุลยพินิจของแพทย์

นอกจากนี้ ยังปรับคำแนะนำการให้ยา โดยแพกซ์โลวิดควรเริ่มภายใน 5 วัน ตั้งแต่เริ่มมีอาการ ให้ยา 5 วัน 10 โดส เรมดิซิเวียร์ ควรเริ่มใน 5 วันตั้งแต่มีอาการ ให้ 3 วัน 3 โดส LAAB ควรเริ่มใน 7 วันตั้งแต่มีอาการให้ 1 โดส และโมลนูพิราเวียร์ควรเริ่มใน 5 วันตั้งแต่มีอาการ จำนวน 5 วัน 10 โดส

สำหรับสถานการณ์โควิด กรณีผู้เสียชีวิต ส่วนใหญ่มากกว่า 70% เป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีหรือรับวัคซีนน้อยกว่าเข็ม 3 และเข็มสุดท้ายนานเกิน 3 เดือน และบางส่วนมีอาการแล้วไม่ได้สังเกตหรือไม่ได้ตรวจ คิดว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ ดังนั้น หากมีไข้สูงลอย ไอมาก เริ่มหอบเหนื่อย ควรรีบมาโรงพยาบาล โดยเฉพาะกลุ่ม 608 และกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือรับไม่ครบ อาการจะเปลี่ยนแปลงเร็ว

จึงขอให้รับมาพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและดูแลรักษาได้ทันท่วงที  ส่วนสถานการณ์เตียงโควิด ขณะนี้ ได้คืนเตียงไปดูแลผู้ป่วยโรคอื่นๆ แล้ว เหลือเตียงดูแลเฉพาะโควิด 7,564 เตียง ใช้ประมาณ 1,168 เตียง หรือใช้ 19.4% เฉพาะเตียงระดับ 2-3 ที่ดูแลกลุ่มปานกลางถึงรุนแรงใช้ประมาณ 35% แม้ช่วงปีใหม่จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่คาดว่าผู้ป่วยอาการรุนแรงจะเพิ่มขึ้นไม่มาก ประเมินว่าการใช้เตียงจนถึงปีใหม่นี้อาจจะไม่ถึง 50%

เผยแนวทางรักษาโควิด “ผู้ป่วย 3 โรค” เข้าถึงยาภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป ง่ายขึ้น

"จากข้อมูล ผู้เสียชีวิตจากโควิด19 พบว่า เป็นการติดเชื้อครั้งแรก  และส่วนใหญ่ไม่ได้ฉีดวัคซีน  ดังนั้น หากยังไม่ได้ฉีดวัคซีน  ขอให้รีบไปฉีด หากฉีดแล้ว แต่เข็มสุดท้ายนานเกิด 4 เดือน ขอให้ไปฉีดเข็มกระตุ้น เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน"
❤️ด้วยความห่วงใย❤️
นพ.โอภาส  การย์กวินพงศ์  
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข

ปิดท้ายกันที่ข่าวดีๆ ที่เป็นโพสต์เตือน ข่าวปลอมอย่าแชร์

เผยแนวทางรักษาโควิด “ผู้ป่วย 3 โรค” เข้าถึงยาภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป ง่ายขึ้น

เผยแนวทางรักษาโควิด “ผู้ป่วย 3 โรค” เข้าถึงยาภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป ง่ายขึ้น

ข่าวปลอม อย่าแชร์❌❌
“รัฐบาลประกาศงดเทศกาลปีใหม่ เนื่องจากพบการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่”
*** ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขเฝ้าระวังทุกสายพันธุ์ และยังไม่ได้เสนอให้งดจัดเทศกาลปีใหม่
#ข่าวปลอม 
#fakenews 
#กรมควบคุมโรค

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สธ. พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดสธ. เยี่ยมเสริมพลัง อสม. จ.เชียงราย โดยได้มอบหมายให้ อสม. เป็นตัวอย่างการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ต้องฉีดให้ได้อย่างน้อย 4 เข็ม และเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นทุก 3 เดือน รวมถึงช่วยนำชาวบ้านมารับวัคซีนโควิด 19 ให้ได้มากที่สุด พร้อมกันนี้ได้นำสารจากนายกรัฐมนตรี ที่มอบหมายงานผ่านไปถึง อสม. ว่า ขอให้ช่วยบุคลากรสาธารณสุข สอดส่อง ดูแล ให้กำลังใจ ผู้ที่ติดยาเสพติด และมีส่วนร่วมในการกำจัดยาเสพติดออกไปจากสังคม เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปด้วยความมั่นคง แข็งแรง และมีระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง

เผยแนวทางรักษาโควิด “ผู้ป่วย 3 โรค” เข้าถึงยาภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป ง่ายขึ้น เผยแนวทางรักษาโควิด “ผู้ป่วย 3 โรค” เข้าถึงยาภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป ง่ายขึ้น

เผยแนวทางรักษาโควิด “ผู้ป่วย 3 โรค” เข้าถึงยาภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป ง่ายขึ้น ทางด้าน รัชดา ธนาดิเรก - รองโฆษกรัฐบาล ได้โพสต์ให้ข้อมูลที่น่าสนใจ รายละเอียดระบุไว้ว่า 

กทม.ขยายเวลาฉีดวัคซีนโควิดฟรี!

ตลอดเดือนธันวาคม เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ศูนย์เยาวชนฯ ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง  
#กรุงเทพมหานคร ขยายเวลาการให้บริการศูนย์ฉีดวัคซีน COVID-19 ณ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง ตลอดเดือนธันวาคม 2565  บริการฉีดวัคซีน #โควิด19 สำหรับผู้มีอายุ 5 ปีขึ้นไป ทุกสัญชาติ เปิดรับทั้งวอล์คอิน (Walk in) และจองคิวล่วงหน้าผ่านแอป QueQ  โดยเปิดบริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00 - 16.00 น.
วันที่ 3 -4 ธันวาคม 2565 และ 24-25 ธันวาคม 2565 เข้ารับบริการที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ณ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง
วันที่ 10 – 11 ธันวาคม 2565 และ 17-18 ธันวาคม 2565 เข้ารับบริการที่สนามกีฬากรุงเทพมหานคร ณ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง

เผยแนวทางรักษาโควิด “ผู้ป่วย 3 โรค” เข้าถึงยาภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป ง่ายขึ้น

วัคซีนโควิด19 เข็มกระตุ้นสำคัญ! โดยเฉพาะผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ลดความรุนแรงของอาการและลดการเสียชีวิต ทั้งนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร โทร. 02-2032883

logoline