svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ชวน"นัดประชุมสอบจริยธรรม"ศุภชัย โพธิ์สุ" ครอบครองที่ดินมิชอบด้วยกฎหมาย

27 พฤศจิกายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

จับตาประชุมกรรมการจริยธรรมสภาฯ ที่มีชวน หลีกภัย ประธานสภา เป็นประธาน เปิดวาระ พิจารณาจริยธรรม "ศุภชัย โพธิ์สุ" รองประธานสภา ปม ครอบครองที่ดินโดยมิชอบ วันพรุ่งนี้ (28 พ.ย.65 )

 

27 พฤศจิกายน 2565  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ออกระเบียบวาระการประชุมสภาฯประจำวันที่ 28 พฤศจิกายน   โดยในส่วนของการการประชุมคณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี"นายชวน หลีกภัย" ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธาน มีวาระที่น่าสนใจ  

 

โดยมีวาระสำคัญเรื่องที่ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียาเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ขอให้ตรวจสอบจริยธรรม"นายศุภชัย โพธิ์สุ" รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 พรรคภูมิใจไทย กรณีครอบครองที่ดินบริเวณ "ป่าดงพะทาย" ตำบลพะทาย อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตามใบจองทั้งสิ้น 34 แปลง

 

ระเบียบวาระดังกล่าว อยู่ในวาระที่ 4.2 เรื่องกำหนดวันพิจารณาครั้งแรก ภายหลังการประชุมคณะกรรมการจริยธรรม เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา มติรับเรื่องไว้พิจารณา ซึ่งภายหลังมีมติรับเรื่องได้ส่งสำเนาเรื่องร้องเรียนให้นายศุภชัย ในฐานะผู้ถูกร้องให้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ภายใน 15 วัน

ศุภชัย โพธิ์สุ  รองประธานสภาคนที่ 2 จากพรรคภูมิใจไทย

ก่อนหน้านี้ คณะอนุกรรมการจริยธรรมได้พิจารณาตรวจสอบ กลั่นกรองเรื่องร้องเรียน ได้ตรวจสอบก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการจริยธรรมชุดใหญ่ที่มี"นายชวน หลีกภัย" ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธาน ซึ่งมีการสรุปข้อเท็จจริงเบื้องต้นสรุปความผิดของเรื่องดังกล่าว ตอนหนึ่งว่า

 

"รับฟังข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติได้ว่า ราษฎรที่ได้รับอนุญาตให้จับจองที่ดินทั้ง 34 แปลง ได้ขายที่ดินให้แก่นายศุภชัย (ผู้ถูกร้อง) ซึ่งยังอยู่ระหว่างห้ามโอนตามกฎหมาย นิติกรรมการซื้อขายและส่งมอบการครอบครองที่ดินตามใบจองทั้ง 34 แปลงดังล่าว เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งตามกฎหมาย จึงเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 150 และถือว่าที่ดินตามใบจองทั้ง 34 แปลง ยังเป็นของรัฐอันบุคคลอาจได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดิน"

 


"แต่นายศุภชัยเข้าครอบครองภายหลังจากประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ และไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ แม้ผู้ถูกร้องจะเข้าครอบครองก่อนเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจนถึงปัจจุบัน ผู้ถูกร้องยังคงครอบครองที่ดินดังกล่าวอยู่ จึงเป็นการครอบครองที่ดินโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย"

 

ดังนั้น จากข้อเท็จจริงและพฤติการณ์การกระทำของผู้ถูกร้องดังกล่าวข้างต้น จึงเชื่อได้ว่าเรื่องร้องเรียนนี้มีมูลกล่าวหาว่ากระทำผิดจริง คณะอนุกรรมการฯจึงเห็นควรรับเรื่องร้องเรียนไว้พิจารณา" ข้อสรุปของคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง

 

นิกร จำนง   ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการจริยธรรม สภาผู้แทนราษฎร

 

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 4 ต.ค.65 "นายนิกร จำนง"  ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการจริยธรรม สภาผู้แทนราษฎร  กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการจริยธรรม สภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 5/2565 ที่มีประธานสภาผู้แทนราษฎร นายชวน หลีกภัย เป็นประธานการประชุมว่า ที่ประชุมยังไม่มีข้อยุติในคำร้องปมนายศุภชัย โพธ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ครอบครองที่ดินผิดกฎหมาย แต่มีมติรับคำร้องไว้พิจารณา

 

กรณีที่คณะกรรมการฯ เห็นว่ามีพยานหลักฐานที่มีน้ำหนักรับฟังได้ และที่ประชุมคณะกรรมการฯ พิจารณาวินิจฉัยว่า ผู้ถูกร้องฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ ว่าด้วยประมวลจริยธรรมของ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกรรมาธิการปี 2563 ซึ่งคณะกรรมการฯ มีอำนาจที่จะลงโทษโดยการตักเตือน ตำหนิ ให้ขอโทษต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตามที่คณะกรรมการฯ กำหนด หรือประณามให้เป็นที่ประจักษ์ หรือในกรณีที่คณะกรรมการฯ เห็นว่าไม่มีพยานหลักฐานที่มีน้ำหนักรับฟังได้ว่า ผู้ถูกร้องฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ ว่าด้วยประมวลจริยธรรมฯ ให้ยกคำร้องโดยเร็ว และรายงานต่อสภาผู้แทนราษฎรทราบ

 

"สำหรับกรณีที่คณะกรรมการฯ เห็นว่ามีพยานหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ผู้ถูกร้องฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ ว่าด้วยประมวลจริยธรรมอันเกี่ยวกับมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ให้เสนอความเห็นต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาลงมติว่าเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมฯ อันเกี่ยวกับมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป"

 

ขณะที่"นายศุภชัย" ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมาว่า "เป็นประเด็นเก่าที่เคยถูก ส.ส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ ในปี 2554 สมัยเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ และได้ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบ แต่เรื่องได้เงียบหายไปกว่า 10 ปีแล้วจึงมั่นใจว่าไม่เป็นปัญหา เพราะหากมีปัญหาจริง ป.ป.ช.ต้องตรวจสอบตนไปนานแล้ว"

 

อีกทั้งได้ชี้แจงไปแล้วว่าที่ดินผืนนี้ได้มาอย่างสุจริตไม่ผิดกฎหมายและได้ก่อนเข้ามาเป็น ส.ส. ไม่เข้าใจว่าเหตุใดคณะกรรมการจริยธรรมฯ ได้รับเรื่องจาก "พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์" มาพิจารณา

 

"นายศุภชัย" กล่าวว่า ที่ผ่านมา "พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์" มักจะยื่นเรื่องให้ตรวจสอบกับ ส.ส.ที่มีข้อขัดแย้งกับตัวเองหลายคน ดังนั้น เรื่องนี้ก็น่าจะเกิดจากปัญหาส่วนตัว เนื่องจากในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่ผ่านมาตนได้เป็นประธานที่ประชุม และมีการปะทะฝีปากกับพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ประเด็นวีรบุรุษนาแกกับสหายแก้ว ซึ่งตนก็ไม่ติดใจอะไร ถือว่าจบสิ้นไปแล้ว แต่ก็อาจจะสร้างความไม่พอใจกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็ได้

 

อย่างไรก็ตามหากคณะกรรมการจริยธรรมฯ เรียกตรวจสอบก็ยินดีไปชี้แจงไม่มีปัญหาอะไร
 

logoline