26 พฤศจิกายน 2565 ภายหลังมีการเผยแพร่คำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายของกระทรวงมหาดไทยที่ 2899/2565 ลงวันที่ 15 พ.ย. 65 โดยมีสาระสำคัญให้ "นายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์" นายอำเภอ (ผู้อำนวยการสูง) อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รักษาการในตำแหน่งนายอำเภอ (ผู้อำนวยการสูง) อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ดำรงตำแหน่ง นายอำเภอ (ผู้อำนวยการสูง) อ.เมือง จ.สงขลา ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย. 65 เป็นต้นไปนั้น
ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวถูกส่งต่อๆ กันในสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะกลุ่มไลน์ และเฟซบุ๊กต่างๆ ของคนสงขลา ส่งผลให้หลายภาคส่วนในจังหวัดมีความรู้สึกไม่ดีนัก และไม่ตอบรับคำสั่งย้ายครั้งนี้ เนื่องจากหลายคนทราบดีว่า นายวิชาญ เคยถูกกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำศาสนาใน อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ร้องเรียนถึงพฤติกรรมบางอย่าง และเรียกร้องให้ย้ายออกจากพื้นที่ ในช่วงเดือน เม.ย. 65 ซึ่งทางอธิบดีกรมการปกครอง ก็มีคำสั่งย้ายไปช่วยราชการที่วิทยาลัยการปกครอง
อย่างไรก็ตาม ต่อมาเมื่อวันที่ 31 พ.ค. 65 อธิบดีกรมการปกครองมีคำสั่งให้ไปรับตำแหน่งนายอำเภอสุไหงปาดี จ.นราธิวาส เช่นกัน แต่ถูกต่อต้านจากคนในพื้นที่อีกครั้ง และมีกระแสเรียกร้องให้โยกย้ายออกนอกสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้มีการชะลอคำสั่งที่ให้ไปรับตำแหน่งนายอำเภอสุไหงปาดีเอาไว้ก่อน
กระทั่งล่าสุดกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งให้ไปรับตำแหน่งใหม่เป็นอำเภอเมือง จ.สงขลา ในวันที่ 28 พ.ย. 65 ส่งผลให้ประชาชนและข้าราชการในพื้นที่ต่างมีความรู้สึกและแสดงออกร่วมกันในมุมที่ไม่พอใจอย่างชัดเจน พร้อมทั้งได้มีการแสดงความคิดเห็นขับไล่ในโซเซียลมีเดีย ซึ่งตอนนี้ชาวบ้านเตรียมรวมพล เพื่อคัดค้านนายอำเภอคนใหม่
ขณะที่ แหล่งข่าวซึ่งเป็นข้าราชการใน จ.สงขลา รายหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า การที่นายวิชาญ ย้ายมาเป็นนายอำเภอเมืองสงขลา น่าจะมีผู้ใหญ่ในจังหวัดขอมา เพราะสมัยที่นายอำเภอยังราชการอยู่ใน จ.นราธิวาส กระทั่งถูกไล่จาก อ.รือเสาะ เป็นสมัยที่ผู้ว่าฯสงขลาคนนี้ เป็นผู้ว่าฯนราธิวาส
"ยุคนี้ต้องทำใจอย่างเดียว ขนาดนายอำเภอคนหนึ่งที่ไปเป็นผู้ช่วย ศอ.บต. แล้วโดนเรื่องพนันออนไลน์ ตอนนี้ยังได้ข่าวย้ายไปลงแถวอีสานเลย ชาวบ้าน ข้าราชการตัวเล็กๆ ทำใจอย่างเดียว ยุคนี้ยุคทำใจ ทราบว่าตอนนี้คนสงขลาเตรียมความพร้อมที่จะรวมกลุ่มกันคัดค้านเรื่องนี้ และไปตรวจสอบว่าเขามีคุณสมบัติหรือไม่ ถูกสอบวินัยอยู่หรือเปล่า" แหล่งข่าว ระบุ
ชาวบ้านสงขลา ขอสงวนชื่อและนามสกุล บอกว่า นายอำเภอคนใหม่น่าจะเคยทำงานกับผู้ว่าฯสงขลามาก่อน สมัยอยู่จ.นราธิวาส ก็ต้องดูกันต่อไปว่าผู้ว่าฯ จะทำอย่างไร รัฐบาลจะเห็นแก่ผู้ว่าฯ คนเดียว มากกว่าคนสงขลาที่เป็นเสียงของคนส่วนมากหรือไม่ ถ้าเป็นแบบนั้นจะยิ่งส่งผลเสียต่อรัฐบาลอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์เพื่อสอบถามไปยัง นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ต่อประเด็นที่เกิดขึ้น แต่ถูกตัดสายทิ้ง จึงไม่สามารถสอบถามข้อเท็จจริงเพิ่มเติมได้