ถอดรหัสสัญญาณ"ยุบสภา"  เกม"นายกฯประยุทธ์" เปลี่ยนอำนาจ ยิ่งกั๊กยิ่งพลาด

 

"รายการคมชัดลึก" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี   ดำเนินรายการ โดย "พิภู พุ่มแก้วกล้า"  ได้เชิญ "รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว" คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์  มหาวิทยาลัยบูรพา  และ "ผศ.ดร.เชษฐา ทรัพย์เย็น" คณะรัฐศาสตร์  มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี"มาร่วมถอดรหัสสัญญาณยุบสภาจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้หรือไม่ หรือ"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา"  นายกรัฐมนตรี  จะดำรงตำแหน่งจนครบวาระและตัวแปรในการเปลี่ยนผ่านอำนาจสู่สมัยต่อไปของ           " พล.อ.ประยุทธ์" ย้ายค่าย"พรรครวมไทยสร้างชาติ" หรืออยู่"พลังประชารัฐ"

 

 

"พิภู"  ถามว่า ในมุมมองคิดว่า "พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา " จะยุติการเมืองหรือไม่ 

 

"รศ.ดร.โอฬาร" มองว่า "พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ยังไม่ยุติการทำงานทางการเมืองแน่นอน แม้อายุจะเหลือแค่ 2 ปี เพราะมีสัญญาณ จากกลุ่มบุคคลรอบข้างที่ขยับ เหมือนกับวงดนตรี หางเครื่อง วงดนตรี กำลังเตรียมลงโรง เหลือแต่นักร้องนำ ถ้านักร้องไม่มา พรรคที่เตรียมขยับจะพังลงมาทั้งหมด  รวมทั้งมีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ที่ย้ายมาค่ายใหม่ เช่น "ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี" ย้ายมาสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ และได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เพื่อดูแลการปราศรัยหาเสียง แสดงถึงการเตรียมความพร้อมในการขึ้นเวทีหาเสียง และแม้ผลโพล์จะตกต่ำหลายพื้นที่ แต่ภาคใต้คะแนนนิยมได้อยู่ และเชื่อว่าความสัมพันธ์ ของ "3 ป." ยังเหนียวแน่น ไม่ได้ตัดความสัมพันธ์กันง่ายๆ และเชื่อว่า กลุ่ม 3 ป.ไม่ได้โง่ มีการวางยุทธศาสตร์ทางการเมืองไว้ตลอด 

 

"ผศ.ดร.เชษฐา" แสดงความเห็นไม่ต่างกันว่า "พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา" จะไม่วางมือทางการเมืองแน่นอน แต่ต้องมีการวางแผนการเปิดตัวออกมา เพราะจะทำให้ กลุ่มสส.ที่ต้องการติดตามออกมาเดินต่อลำบาก และมั่นใจ"ลุงตู่" ว่าไม่มีทางยุติบทบาทแน่นอน  จับบุคลิกของ "สุชาติ ชมกลิ่น" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พื้นที่ ชลบุรี ที่ประกาศตัวมาตลอด 4 ปี และโพสต์ข้อความว่า "จะทิ้ง นายกรัฐมนตรีได้อย่างไร" แสดงให้เห็นว่า "พล.อ. ประยุทธ์" เล่นการเมืองแน่นอน หากไม่ได้รับการส่งสัญญาณจะแสดงความชัดเจนไม่ได้แน่นอน " นักเลงเมืองชล ไม่ทิ้งลุงตู่ให้เดินเดียวดาย "  นอกจากนี้เชื่อว่า ประสบการณ์ 8 ปีของ"พล.อ.ประยุทธ์" น่าจะมีทีเด็ด "ลับ ลวง พราง " 

"พิภู"  ถามว่า กลุ่มพี่น้อง 3 ป.แตกหักกันหรือไม่และรัฐบาล "พล.อ. ประยุทธ์" จะอยู่ครบเทอมหรือยุบสภา เมื่อไหร่  

 

 

"รศ.ดร.โอฬาร"  มองว่า ไม่แตกหักระหว่างกัน แต่กลุ่ม "3 ป."จะ ผนึกกำลังร่วมกัน และเล่นเกมหลายหน้า ระหว่างพี่น้อง เพราะหากพลาดแต่อีกปีกก็ยังสามารถร่วมมือกัน การยุบสภาย่อมต้องมีการส่งสัญญาณ ระหว่างกัน เพราะมีเครื่องมือที่จะสืบทอดอำนาจครบ  ส่วนช่วงเวลาที่จะยุบสภาเมื่อไหร่ คิดว่า พี่น้อง 2 ป.น่าจะมีการหารือกันแต่ไม่ครบเทอมแน่นอน  เพื่อให้แต่ละฝ่ายจัดทัพทางการเมือง 
รวมทั้งมองว่า "พล.อ. ประยุทธ์ " ประวิงเวลาจะไม่เป็นผลดี ต่อพรรคที่จะไปสังกัด 

 

"ผศ.ดร.เชษฐา" มองว่า "พล.อ.ประยุทธ์" เคยคิดเล่นเกมยื้อการยุบสภา ปลายกุมภาพันธ์ปี 2566  แต่ขณะนี้เกมการเมืองเปลี่ยน ย้ายพรรคแล้ว ก็น่าจะยุบเร็วกว่าเดิมประมาณ สัปดาห์ที่ 3 เดือนธันวาคมก่อนปีใหม่  

 

 

เพราะต้องทำให้พรรคร่วมรัฐบาลเดิมเตรียมตัวไม่ทัน ถ้ายุบช้า"พลังประชารัฐ"เตรียมตัวเร็วก็จะยุ่ง ต้องยุบเร็วเพื่อไปดึงฐานเสียงของพลังประชารัฐ  แม้จะไม่แตกหัก แต่พี่น้องอาจทะเลาะกันงอนกัน เพื่อชิงไหวชิงเหลี่ยม แต่หากมีการโกยคะแนนกันได้แล้วหลังเลือกตั้งก็อาจมาประนีประนอมได้และการเดินทางไปลุยป้อมปราการของ"พรรคพลังประชารัฐ" จังหวัดเพชรบรูณ์ และจังหวัดกำแพงเพชรที่เป็นฐานเสียงยกจังหวัด  ของพรรคพลังประชารัฐ จึงทำให้"พลเอกประยุทธ์" เดินหน้าชน แบรนด์พรรค รวมไทยสร้างชาติ  คือ "พล.อ.ประยุทธ์ "  และมองว่า "พล.อ.ประยุทธ์"ต้องประกาศตัวเร็ว เพื่อให้ได้กลุ่มส.ส.และกระแส

 

 

"พิภู" ถามว่า จุดเปลี่ยนเรื่องของ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญการเลือกตั้ง ส.ส. มองอย่างไร 

 

"รศ.ดร.โอฬาร"  คิดว่า การหาร 100 เป็นผลดีต่อฝ่ายค้าน  และ หาร 500 เป็นผลดีกับพรรค "3 ป."  และ พรรคเล็ก พรรคน้อยจะได้เปรียบ หากดูโครงสร้างทางการเมือง การใช้บัตร 2 ใบเพื่อการเลือกตั้ง เป็น
วิธีทางการเมืองเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบ เช่นเดียวกัน บุคคลากรทางการเมือง ของ"พรรครวมไทยสร้างชาติ" อาจจะได้กระแสชนชั้นกลาง กับบ้านใหญ่ ทำให้ได้ที่นั่งเกิน 30 ที่ ซึ่งก็จะเป็นพรรคที่สามารถเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้ ซึ่งก็จะมีเสียงสนับสนุนจาก สมาชิกวุฒิสภา 250 เสียงด้วย และเชื่อว่า การรวมตัวกันจะกลับมาอีกครั้งของพรรคร่วมรัฐบาลซึ่งจะตีกันไม่ให้"พลังประชารัฐ"จับมือกับ "เพื่อไทย" 

 

เราถูกกับดักทางการเมืองที่ถูกกำหนดเส้นทางไว้ นี่คือการเรียนรู้ ถ้าเราไม่ชอบการเมืองแบบหนึ่งที่ถูกกำหนดไว้ หากเราไม่ชอบการเมืองแบบนี้อาจถูกวางหมากไว้อีกแบบหนึ่ง

 

"ผศ.ดร.เชษฐา" มองว่า วันที่ 30 พ.ย. วันที่ศาลวินิจฉัย กฏหมายลูก จะเป็นตัวกำหนดว่าจะยุบสภาฯเร็วหรือช้า ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ไม่ผ่าน อาจจะทำให้ยุบสภาช้า เพราะต้องมีเวลาในการจัดการ 
พระราชกำหนดที่จะตามมา ซึ่งหาร 500 จะเป็นคุณกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะตอนนี้ เป็นพรรคเล็ก ไปแล้ว คาดว่าน่าจะเกิน 25 คน แต่ไม่ถึง 77 ที่นั่งย่อมเป็นไปไม่ได้ ซึ่งจะเป็นคุณพรรคขนาดกลาง  
และเชื่อว่า"พรรครวมไทยสร้างชาติ"จะเป็นคุณกับ "พล.อ.ประยุทธ์" มากกว่า"พรรคพลังประชารัฐ" สร้างแบรนด์ใหม่  และเชื่อว่า รัฐบาลหน้า โมเดลอาจเป็นตัวเลือกเดิม ซึ่งประชาชนจะต้องตัดสินใจว่า 
จะเลือกฝ่ายใด ซึ่ง สสร.เดิมไปให้ อำนาจของ ส.ว.250 เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมือง 

 

"พิภู" ทิ้งทายว่า เหล่านี้คือ อาวุธหนักของผู้มีอำนาจทางการเมือง ที่ยังคงอยู่

 

ชมคลิป >>>