นายภราดร เตียรณปราโมทย์ รองผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซียพลัส เปิดเผยถึงภาวะ ตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,615.33 จุด ลบ 3.53จุด หรือ 0.22% โดยระหว่างวันดัชนีเคลื่อนไหวสูงสุดที่ระดับ 1,629.22 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,612.25 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 57,220.99 ล้านบาทกับ NATION ONLINE ว่า
ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ที่ส่วนใหญ่แดงยกแผง เช่น ฮ่องกงลบ 1.3% มาเลเซียลบ 0.5% และเกาหลีใต้ลบ 0.6%
สำหรับแรงกดดันมาจาก จีนพบจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม ล่าสุดเมื่อวานนี้สูงถึง 2.4 หมื่นคนทำให้จีนล็อกดาวน์บางพื้นที่ เช่น ปักกิ่ง ปิดโรงเรียน พิพิธภัณฑ์ สวนสาธารณะ เป็นต้น ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจโลก อาจจะชะลอตัว กระทบต่อหุ้นพลังงานปรับตัวลง เช่น หุ้น PTTEP ร่วง 0.80%
ส่วนหุ้นที่กดตลาดวันนี้เป็น TRUE –DTAC โดยแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า การทำเทรนเดอร์ออฟเฟอร์เสร็จไม่ทัน ตามกรอบ 1 ปี แต่ยังควบรวมกิจการส่งผลให้หุ้น DTAC ลงหนัก 10.06 % TRUE ลง 7.3%
ขณะที่ปัจจัยที่เหลือในสัปดาห์ที่ต้องติดตามคือ การรายงานผลการประชุมเฟด fed minutes รู้ผลวันพฤหัสบดี ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดทำการ เนื่องจากเป็นวันขอบคุณพระเจ้า ทำให้มูลค่าการซื้อขายปลายสัปดาห์เบาบาง
ส่วนไทยประกาศตัวเลขส่งออก คาดว่าโต 6% YOY จากเดิมเดือนก.ย.โต 7.8% สาเหตุที่ส่งออกเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวเป็นผลมาจากจีนล็อกดาวน์ประเทศ ทำให้มูลค่าการส่งออกสินค้าไปจีนลดลง
ด้านแนวโน้มหุ้นไทยวันพรุ่งนี้ คาดว่ายังซึมต่อเนื่อง ประเมินกรอบแนวรับ 1,600 จุด แนวต้านที่ 1,630 จุด เน้นหุ้นได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจฟื้นตัว และกำไรเติบโต แนะนำ BEC ( FV@ B 12.70) CK ( FV@B 27) COM 7 ( FV@B 47.50) รับประโยชน์จากช้อปดีมีคืน