svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“หมอชลน่าน” เชื่อ “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” แยกกันเดิน คือกลยุทธ์สืบทอดอำนาจ

22 พฤศจิกายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“หมอชลน่าน” เชื่อ การย้ายพรรคของ “บิ๊กตู่” คือกลยุทธ์แยกกันเดินกับ “บิ๊กป้อม” เพื่อสืบทอดอำนาจ ท้ายที่สุดรวมกัน มั่นใจยังไม่ชิงยุบสภาตอนนี้ ขณะที่ “ฝ่ายค้าน” เตรียมยื่นญัตติซักฟอกถล่มรัฐบาล

 

22 พฤศจิกายน 2565 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะไปพรรครวมไทยสร้างชาติ มีผลต่อกระแสเพื่อไทยแลนด์สไลด์ โดยเชื่อว่า หากตัดสินใจเช่นนั้นคือ ต้องการสืบทอดอำนาจ หากอยู่พรรคเดิมอาจจะมีอุปสรรคประชาชนไม่ยอมรับ หากแยกกันอยู่เพื่อความอยู่รอด อาจจะเป็นกล ยุทธ์ แยกกันอยู่แล้วมารวมกันสุดท้ายก็ได้ แต่ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ได้คำนึงถึงคู่แข่ง อยู่เสมอ และได้เตรียมพร้อมพรรคให้มากที่สุด ไม่ว่าคู่แข่งจะเป็นอย่างไร จะมีกลยุทธ์อย่างไร หากพรรคเข้าถึงประชาชนเชื่อว่าจะมีกระแสมากกว่าอย่างอื่น 

“หมอชลน่าน” เชื่อ “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” แยกกันเดิน คือกลยุทธ์สืบทอดอำนาจ

นพ.ชลน่าน ยอมรับว่า กลยุทธ์แยกกันเดินอาจจะกระทบกับบางพื้นที่เช่น ภาคใต้ แต่ไม่กระทบภาพใหญ่ เพราะกระแสความต้องการของประชาชนตอนนี้ตอบชัดว่า พรรคฝ่ายรัฐบาลกระแสต่ำมาก แต่พรรคเพื่อไทยต้องรู้ตัวเองให้มากที่สุด เพราะการเลือกตั้งคู่แข่งที่แท้จริงไม่ใช่พรรคการเมือง แต่คือประชาชน ดังนั้นพรรคเพื่อไทยต้องเอาชนะใจประชาชนให้ได้ก่อน 

“หมอชลน่าน” เชื่อ “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” แยกกันเดิน คือกลยุทธ์สืบทอดอำนาจ

ส่วนในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับนั้น หากศาลวินิจฉัยว่า ชอบด้วยรัฐธรรมนูญก็เข้าสู่กลไกตามกระบวนการ แต่หากศาลชี้ว่าขัดรัฐธรรมนูญ ก็ถือว่ากฎหมายเป็นอันตกไป ไม่มีกฎหมายใช้สำหรับเลือกตั้ง

แต่ขณะนี้สภายังมีเวลาอยู่ หากเห็นความสำคัญ ต้องเร่งเสนอร่างกฎหมายลูกขึ้นมาใหม่เพื่อพิจารณาให้ทันอายุสภา แต่หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ต้องถามเหตุผลผู้ที่ทำให้เกิด และต้องหากฎหมายมาใช้ในการเลือกตั้งให้ได้ เว้นแต่จะใช้อำนาจตีความว่าไม่สามารถใช้กฎหมายใดในการเลือกตั้งได้ และรักษาการยาว แต่เชื่อว่าจะทำให้เกิดวิกฤติแน่

ขณะที่การยื่นญัตติอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 ขณะนี้ได้ประเมินจากสถานการณ์ทางเมือง โดยเฉพาะประเด็นการยุบสภา ซึ่งคาดว่ารัฐบาลจะยื้อไปถึงช่วงสิ้นเดือนมกราคม ดังนั้น ฝ่ายค้านจึงประเมินว่าจะยื่นช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ เพื่อให้สามารถอภิปรายได้ช่วงกลางเดือนมกราคม เพราะหากยื่นช่วงนี้จะกระทบกับวันหยุดยาวช่วงปีใหม่ ที่มองแล้วอาจะไม่เหมาะสม

ขณะเดียวกันประเมินว่ารัฐบาลยังไม่พร้อมยุบสภาในช่วงนี้ เนื่องจากยังจัดสรรผู้สมัครไม่ลงตัว เพราะการยุบสภาจะต้องเป็นประโยชน์กับฝ่ายรัฐบาลมากที่สุด

นพ.ชลน่าน ยังยืนยัน หลังมีกระแสข่าวการรวมพรรคพลังประชารัฐ กับพรรคเพื่อไทยกลับมาอีกครั้งว่า เป้าหมายหลักของการแยกกันเดินคือการสืบทอดอำนาจ และอย่าลืมว่า 3 ป. มีที่มาด้วยกัน แต่อาจจะมองว่า ถ้ารวมกันอยู่อาจตายหมู่ จึงเปลี่ยนไปแยกกันตี และมารวมกันในทีหลัง เว้นแต่ไม่ต้องการสืบทอดอำนาจ ปล่อยให้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง พร้อมมองว่า อาจเป็นกลยุทธ์ในการหาทางลงให้ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะอยู่ในอำนาจได้แค่ 2 ปี อาจจะไม่มีใครกล้าซื้อ เว้นแต่จะมีการแก้รัฐธรรมนูญ

ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค หลังนายเศรษฐา ทวีสิน ยอมรับว่าจะอยู่พรรคเพื่อไทยนั้น ยังไม่มีการทาบทามให้นายเศรษฐา มาเป็นแคนดิเดตอย่างเป็นทางการ ซึ่งคนทุกคนที่จะมาเป็นแคนดิเดตจะต้องผ่านกระบวนการตามหลักเกณฑ์ที่วางไว้ โดยจะเปิดตัวในช่วงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น คือ ใกล้จะยุบสภา หรือมีประกาศเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ

 

“หมอชลน่าน” เชื่อ “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” แยกกันเดิน คือกลยุทธ์สืบทอดอำนาจ
ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า กลยุทธ์การแยกกันเดินระหว่างพลเอกประยุทธ์ กับ พลเอกประวิตร เป็นเพียงเหล้าเก่าในขวดใหม่ ไม่มีอะไรเป็นเรื่องใหม่ และพรรคเพื่อไทยไม่หนักใจเรื่องนี้

logoline