นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลัง การลงพื้นที่ตรวจด่านชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่ด่านโก-ลก และด่านตากใบ จังหวัดนราธิวาส ว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ได้เข้าร่วมประชุม ส่วนราชการในจังหวัด เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สะดวกในการข้ามแดนไทย-มาเลเซีย และ เร่งรัดยอดการค้าชายแดน ซึ่งด่านโก-ลก และด่านตากใบ ซึ่งถือเป็นด่านสำคัญจาก ทั้งหมด 9 ด่าน ในการค้าชายแดนภาคใต้ โดยปัจจุบัน เปิดทำการครบทุกด่าน หลังจากปิดไปในช่วงสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด
โดยด่านสุไหงโก-ลก ได้ขอให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เร่งดำเนินการตรวจคนเข้าเมือง ในช่วงวันพฤหัสบดี ถึงวันเสาร์ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่มีชาวมาเลเซีย เข้าประเทศมากที่สุด ตามคำเรียกร้องของภาคเอกชน และ ประชาชน เพื่อลดระยะเวลาการตรวจคนเข้ามืองรองรับนักท่องเที่ยว และ ให้ศูนย์อำนวยการบริหารชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ประสานงาน กับ มาเลเซีย ในการขยายระยะเวลาเปิดด่าน หลังประเทศไทยใหม่เป็น 05.00-21.00 น.แล้ว
นอกจากนี้ยังให้กระทรวงคมนาคม ประสานงานภายใน เรื่องขั้นตอนการขออนุญาตนำเข้ายานพาหนะให้นักท่องเที่ยว และผู้ค้าชายแดนที่ข้ามจากด่านโก-ลก มายังนราธิวาส ให้มีความสะดวกยิ่งขึ้น โดยด่านโก-ลกนั้น เมื่อปี 2564 มียอดการส่งออกที่ด่านไปยังมาเลเซียกว่า 1,500 ล้านบาท แต่ในปีนี้ยอดส่งออกเพียง 9 เดือน สามารถส่งออกไปได้แล้วกว่า 1,230 ล้านบาท
ขณะที่ด่านตากใบ พบปัญหาในชุมชนตาบา เขตเทศบาลเมืองตากใบ เนื่องจากบริเวณหน้าด่านมีกำแพงกั้น ทำให้นักท่องเที่ยวมาเลเชียไม่สามารถข้ามเข้ามาซื้อของในเขตชุมชนได้ จึงมอบหมายให้ศอ.บต. และผู้ว่าราชการจังหวัด รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหา เพราะที่ผ่านมาด่านตากใบมียอดการค้าอยู่ที่ปีละ1,000ล้านบาท แต่หลังประสบปัญหาโควิด-19 ยอดการซื้อขายสินค้าเหลือเพียงประมาณ 1 ล้านบาท
ขณะที่ปัจจุบันยอดการค้ามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยตั้งแต่เดือนมกราคม-เดือนกันยายนที่ผ่านมา มียอดการค้าแล้วกว่า 4 ล้านบาท แต่มีติดปัญหาแพขนานยนต์ไม่สามารถใช้งานได้ จึงเร่งให้ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาสเร่งปรับปรุงให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้ และ หวังว่ายอดการค้าที่ด่านตากใบ จะสามารถกลับมาแตะระดับ 1,000 ล้านบาทได้เช่นดิม