มวลชน "ราษฎร หยุด APEC 2022" แจ้งเอาผิด คฝ.

19 พฤศจิกายน 2565 เมื่อเวลา 13.40 น. ที่ สน.สำราญราษฎร์ นางสาวปนัสยา หรือ "รุ้ง" สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำกลุ่มราษฎร ได้เดินทางมาที่ สน.สำราญราษฎร เพื่อมาให้กำลังใจ ทนายอานนท์ นำภา เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ เอาผิดเจ้าหน้าควบคุมฝูงชนทุกระดับชั้น ที่มีส่วนใช้ความรุนแรงเข้าสลายการชุมนุม  "กลุ่มราษฎรหยุด APEC 2022" บริเวณถนนดินสอ จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
๐ ให้ประกันผู้ชุมนุม "ราษฎรหยุดเอเปค" 25 คน สั่งห้ามชุมนุม-สร้างความวุ่นวาย
๐ ทนายยื่นขอประกัน 25 ม็อบต้านเอเปคที่ถูกรวบ หวังได้รับการปล่อยตัวคืนนี้
๐ กอร. สรุปจับม็อบ 25 ราย พบเผารถมี ตร.เจ็บ 5 นาย ย้ำใช้กระสุนยางตามยุทธวิธี
๐ แกนนำม็อบหยุดเอเปค ประณามสลายการชุมนุม จี้ปล่อยผู้ชุมนุมไม่มีเงื่อนไข
๐ ไทม์ไลน์ม็อบ "กลุ่มราษฎรหยุดเอเปค" ฝ่าแนวกั้น เกิดปะทะตำรวจ (มีคลิป)

น.ส.ปนัสยา หรือ รุ้ง กล่าวว่า ไม่คิดว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้น มีคนบาดเจ็บถึงขั้นตาบอด ทั้งที่มีการดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี ระหว่างมีการประชุมของผู้นำต่างประเทศ ที่มาประชุมเอเปค แต่ในสายตาของตำรวจไม่ได้มองแบบนั้น ไม่แน่ใจว่า เขาคิดกับเราเกินไปแบบไหน กรณีที่เกิดขึ้น ถือเป็นเรื่องเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ตนเองรู้สึกช็อก และตกใจกับเหตุที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก 

“กับคนที่ถูกยิงจนถึงขั้นตาบอด จึงไม่เข้าใจว่า ทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ต้องใช้อารมณ์ในการปฏิบัติหน้าที่มากมายขนาดนั้น มีคลิปและภาพปรากฎชัดเจน ทั้งนี้ ตนเชื่อว่า ภายในของตำรวจทุกคน ไม่ได้มาเพื่อตีประชาชน อาจจะมาจากคำสั่ง แต่ขอให้มีวิจารณญาณทำหน้าที่ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวอีก” 

ขณะที่ นายอานนท์ กล่าวว่า วันนี้ทางกลุ่มราษฎร ได้ส่งตัวแทนแจ้งความกล่าวโทษ เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ ที่ใช้กำลังเข้าทำร้ายผู้ชุมนุมและสื่อมวลชน ซึ่งทำการสลายการชุมนุม หลายคนได้บาดเจ็บโดยเฉพาะ "พายุ ดาวดิน" ที่อาจสูญเสียดวงตา ทั้งนี้ จะดำเนินคดีทุกคนระดับปฏิบัติการจนถึงผู้บังคับบัญชา หรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง มีทั้งคลิปและภาพเป็นหลักฐาน พร้อมขอให้ผู้เสียหายรายอื่นดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนมีความกังวลตำรวจช่วยเหลือกันหรือไม่ ตำรวจที่ช่วยกันคือตำรวจที่เลว คิดว่าไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น

ด้าน นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตโฆษกประจำสำนักนายรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเดินทางไปเยี่ยม "พายุ ดาวดิน" ผู้บาดเจ็บมา ขณะนี้ยังไม่ฟื้นจากการสลบ จากการสอบถามแพทย์ที่ทำการรักษาทราบว่า มีอาการกล้ามเนื้อตาฉีดขาด หัวตาฉีกขาด อวัยวะในลูกตา ออกมาข้างนอกหมด หมอทำความสะอาดเย็บกลับเข้าไปเช่นเดิม

ส่วนอีกรายนึงกระดูกเบ้าตาด้านขวาแตก มีฟันหักและแผลในปาก และมีผู้บาดเจ็บหลายคน "พายุ" อาการหนักสุด คือไม่รับรู้ถึงแสงสว่างแต่อย่างใด ถือว่าเป็นการบาดเจ็บสาหัส ทั้งนี้ ประชาชนเสียดวงดาไปแล้ว 3 ราย ขอไม่ให้เกิดเหตุการณ์สูญเสียอวัยวะดังกล่าวอีก 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้มีมีการอ่านแถลงการณ์ มีใจความว่า รัฐบาลในคราบเผด็จการ ไม่ต้องขยายความเลวร้ายในการประชุมเอเปค ถัดออกไปเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กระสุนยาง อาวุธไล่ตีอย่างบ้าคลั่ง แต่จากข้อกล่าวอ้างรักษาความสงบเรียบร้อย รัฐใช้ความรุนแรงเป็นปกติ ละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศสิทธิทางการเมืองและสิทธิพลเมือง ยืนยันว่า ไม่มีผู้ชุมนุมกลุ่มใดทำลายการประชุมเอเปค

เพียงต้องการให้ฟังความเห็นของกลุ่มผู้ชุมนุม และเรียกร้องฝ่ายความมั่นคง พวกเขาที่ถูกทำร้ายอาจจะเป็นญาติพี่น้อง เพื่อน ซึ่งเป็นมนุษย์เช่นเดียวกัน ต่างคนต่างทำหน้าที่คำสั่งของเผด็จการ ไม่สามารถเปลี่ยนให้เป็นคนเลวร้าย เชื่อว่าจะกลับมายืนเคียงข้างประชาชนได้ เพื่อสร้างสรรค์อนาคตได้ขอให้กลับมาเคียงประชาชน