12 พฤศจิกายน 2565 "นายนริศ เชยกลิ่น" รองหัวหน้า และโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย พร้อมด้วย "ศ.ดร.กำพล ปัญญาโกเมศ" รองหัวหน้าพรรค และประธานด้านวิชาการ และ นายจิรมิตร เกษร ประธานกรรมการขับเคลื่อนด้านเกษตรยั่งยืนและเกษตรวิถีใหม่ ร่วมแถลงเปิดแพคเกจยุทธศาสตร์ "คืนชีวิตให้เกษตรกรไทย" โดยชูนโยบาย 8 ข้อ เพื่อนำเกษตรกรพ้นจากวงจรความยากจน ตั้งเป้าเพิ่มเงินในกระเป๋าเกษตรกรปีละ 200,000 บาท ล้างหนี้ให้หมดภายใน 3 ปี
โดย ศ.ดร.กำพล กล่าวว่า ขอยกปัญหาการส่งออกข้าว และหนี้ของเกษตรกรมาจัดทำยุทธศาสตร์คืนชีวิตเกษตรกรไทย ประกอบด้วย 8 นโยบายหลัก คือ
1.หยุดหนี้สินพักหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย 5 ปี และเติมเงินทุนใหม่
2.ลดต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะหน้ารัฐจะจ่ายค่าปุ๋ยให้ครึ่งหนึ่งอนาคตระยะยาวจะมีโรงงานปุ๋ยแห่งชาติและโครงการปุ๋ยชุมชน
3.เพิ่มรายได้จากทั้งในและนอกภาคเกษตรสนับสนุนให้เกิดสมาร์ทฟาร์มเมอร์ และผู้ประกอบการเกษตรสมัยใหม่
4.ลดความเสี่ยงรายได้การเกษตร โดยพัฒนาระบบประกันภัยการผลิตภาคเกษตร
5.แก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง โดยจัดตั้งกระทรวงน้ำและส่งเสริมระบบธนาคารน้ำใต้ดิน
6.แก้ปัญหาสิทธิที่ดินทำกิน โดยตั้งธนาคารที่ดินเพื่อการเกษตร จัดสรรที่ดินทำกินให้ทั่วถึง
7.สร้างเศรษฐกิจฐานราก เติมทุนกองทุนหมู่บ้านสนับสนุนการเชื่อมโยงภาคเกษตร-อุตสาหกรรม-ท่องเที่ยว
8.ปฏิรูปแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค์ในการทำกินของเกษตรกร
อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าโครงการพักหนี้ของพรรคสร้างอนาคตไทย จะไม่ทำลายวินัยการเงินการคลังของประเทศ เพราะเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ต้องเข้าโปรแกรมพัฒนาศักยภาพด้านความรู้ในการประกอบอาชีพ และหน่วยงานที่รับผิดชอบต้องติดตามผล
นอกจากนี้ รัฐบาลจะต้องมีโครงการลดต้นทุนการผลิต เพื่อให้เกษตรกรมีกำไรมากขึ้น โดยเฉพาะปัจจุบันปุ๋ยที่มีราคาแพง ทางพรรคจึงเห็นว่ารัฐบาลต้องช่วยเหลือแบบคนละครึ่ง และเมื่อดำเนินการควบคู่กับนโยบายพรรคอื่นอีก 6 นโยบาย เชื่อว่าจะสามารถพลิกชีวิตเกษตรกรไทย ให้ดีขึ้นได้
ขณะที่ นายจิรมิตร ได้เสนอแนะการนำเทคโนโลยี หรือการบริการจัดการสมัยใหม่มาปรับใช้เพื่อเป็นการเข้าสู่เกษตรกรระดับสมาร์มฟาร์มเมอร์ โดยการทำงานร่วมกันของเครือข่ายเกษตรพอเพียงกลุ่มต่างๆของประเทศ ยึกหลักการปลูกพืชผสมผสานหรือทำกิจกรรมบนที่ดินที่มีความหลากหลาย และลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น การทำปุ๋ยใช้เอง เป็นต้น
นายนริศ กล่าวยืนยันว่า พรรคสามารถทำได้จริง เริ่มต้นด้วยการเซ็ทซีโร่หนี้ จากนโยบายช่วยประชาชนจ่ายค่าปุ๋ยคนละครึ่ง เพื่อลดต้นทุนการผลิต และการที่ออกนโยบายดังกล่าวไม่ใช่เพื่อต้องการเกทับใคร ทุกนโยบายล้วนมาจากความรู้ของผู้บริหารพรรค อาทิ "นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์" ประธานพรรค "นายอุตตม สาวนายน" หัวหน้าพรรค ซึ่งเคยมีประสบการณ์เคยบริหารกระทรวงการคลัง อีกทั้งปัญหาเหล่านี้ไม่สามารถแก้แบบลูบหน้าปะจมูกได้ จำเป็นจะต้องแก้อย่างจริงจังและต้องแก้ให้จบ