สิ้น 'หลวงปู่รอด' เกจิชื่อดังแห่งอีสานใต้ สิริอายุ 77 ปี

"หลวงปู่รอด ได้บวชเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ 13 ปี และต่อมาเข้าบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2510 ที่ วัดศิรินทราราม ต.นาดี อ.เมืองสุรินทร์ โดยมีพระครูอรุณสาธุกิจ วัดศิรินทราราม เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “อาภสฺสโร” จนถึงปัจจุบัน"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.15 น. "หลวงปู่รอด" อาภสฺสโร เกจิดังแห่งอีสานใต้ เจ้าอาวาสวัดโคกกรม ต.จีกแดก อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ มรณภาพแล้ว ที่โรงพยาบาลพนมดงรัก อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังเกิดอาการวูบ สาเหตุคาดมาจากพักผ่อนน้อย ประกอบกับท่านมีโรคประจำตัวคืออาการเส้นเลือดหัวใจโป่งพองมากว่า 10 ปี โดยลูกศิษย์นำร่างกลับมาที่วัดโคกกรม ต.จีกแตก แล้วตั้งแต่เมื่อคืนเวลาประมาณตี 1 ซึ่งมีบรรดาลูกศิษย์และปนะชาชนที่ทราบข่าว ต่างพากันมารอรับร่างที่วัดด้วยความโศกเศร้า ด้วยคาดไม่ถึงว่า หลวงปู่จะจากไปเร็วอย่างนี้ 

พระครูปริยัติ บุญญาทร รองเจ้าคณะ ต.โคกกลาง เจ้าอาวาสวัดโนนสมบูรณ์ ต.โคกกลาง อ.พนมดงรัก กล่าวว่า เมื่อคืนทราบจากพระแซมที่ดูแลหลวงปู่ว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้ยินเสียหลวงปู่ตะโกนเรียก จึงรีบไปที่ห้องท่าน ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน แต่พอเปิดประตูเข้าไป เห็นหลวงปู่ล้มนอนอยู่กับพื้นห้องแล้ว จึงรีบเข้าไปประคองและรีบนำหลวงปู่ส่งโรงพยาบาลพนมดงรักทันที เมื่อไปถึงโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ต่างช่วยกันอย่างเต็มที่ ซึ่งพออาตมาไปถึงในเวลาประมาณ 22.44 น. ได้เข้าไปจับที่ปลายเท้าของหลวงพ่อ รู้สึกว่าเท้าเย็นหมดแล้ว ไม่มีอะไรตอบสนอง ม่านตาก็เปิดโล่งแล้ว จึงบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าหยุดได้แล้ว หลวงปู่ไปแล้ว

อาตมาเดินออกจาห้องมา เพราะรู้สึกว่าทำใจลำบาก จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ถอดสายและเครื่องช่วยออก ก็ได้กลับมาอีกรอบ เพื่อเตรียมนำหลวงปู่กลับวัด สำหรับโรคที่หลวงปู่เป็นอยู่นั้น เคยไปรักษาอยู่หลายโรงพยาบาล แต่หลวงปู่ก็ไม่รักษา เอาแต่ยามากิน จนกระทั่งมาเกิดอาการเมื่อวานนี้ ซึ่งประกอบกับที่หลวงปู่มีกิจนิมนต์เยอะ พักผ่อนน้อยด้วย

สำหรับชีวประวัติของ “หลวงปู่รอด อาภสฺสโร”

ปัจจุบัน หลวงปู่ ท่านมีอายุย่าง 77 ปี มีพรรษาที่ 55 แต่เดิมชื่อ "บุญรอด ทะลัยรัมย์" ท่านเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 ม.ค.2488 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 2 ปีชวด ที่ บ้านระกาไกรสร ต.เพี้ยราม อ.เมืองสุรินทร์ 

ในตอนวัยเด็ก หลวงปู่ เกิดมาสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง มารดาจึงได้ตั้งชื่อให้ว่า “บุญรอด” พออายุได้ 5 ขวบมารดาจึงเพิ่งไปแจ้งเกิดให้  ปู่ทวดของหลวงปู่รอด เป็นผู้ที่มี วิชาอาคมคงกระพันชาตรี หนังเหนียว ชื่อว่าตาเบว เป็นบรรพบุรุษรุ่นแรก ตอนที่เสียชีวิตลูกหลานและพี่น้องได้ทำการเผาศพของท่านตามประเพณี ในขณะที่เผาศพของตาเบวไฟไม่ไหม้  

หลวงปู่รอด ท่านได้บวชเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ 13 ปี และต่อมาก็ได้เข้าบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 17 เดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2510 ที่ วัดศิรินทราราม ตำบลนาดี อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ โดยมีพระครูอรุณสาธุกิจ วัดศิรินทราราม ตำบลนาดี เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า  “อาภสฺสโร”  จนถึงปัจจุบัน  

ตอนเด็กๆ หลวงปู่ เป็นคนชอบปั้นพระ  ในขณะที่คนอื่นเลี้ยงวัวเลี้ยงควายตามทุ่งนา ซึ่งตาเบวที่เป็นปู่ทวดก็ได้บอกให้ทำพระไป แล้วท่านก็บอกวิชาอาคมทั้งหลายให้  โดยพระที่ทำจะใช้ดินทำ  ทำแล้วก็เอาไปไว้บนบ้าน เวลามีญาติโยมมาก็ขอไป ญาติพี่น้องมาก็ขอไป  เอาไปเพื่อกราบไหว้บูชา ซึ่งตอนนั้นหลวงปู่รอดก็ได้เรียนวิชาอาคมจากตาเบวแล้ว  จึงได้อธิฐานจิตพระทุกองค์ให้  จนกระทั่งถึงอายุครบที่จะบวชแล้วก็เลยได้บวช

หลวงปู่รอด เป็นพระที่ชาวบ้านศรัทธาในด้านศูนย์รวมทางจิตใจ มีเมตตาต่อทุกคนที่เข้าพบ ท่านได้รับความรู้ด้านตำรายาและการรักษาแบบโบราณจากหลวงปู่ 3 องค์ ด้านวัตถุมงคลของขลัง ท่านเริ่มทำวัตถุมงคลรุ่นแรกๆ เมื่อปี 2550 ไม่ว่าจะเป็น สีผึ้ง พระสมเด็จ และตะกรุด ซึ่งท่านได้ทำไว้ เพื่อแจกให้กับญาติโยมที่มาหา และแจกให้กับทหาร ตำรวจ ที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่ภาคใต้ จนเป็นที่ยอมรับถึงความขลังของวัตถุมงคล ทำให้มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ทั้งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และนักการเมืองดังๆ หลายคน 

ทำตะกรุด รุ่นรอดปลอดภัย แจกจ่ายให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน บนถนนทางหลวง 24 จำนวน 4,000 ชุด เพื่อเตือนสติให้ผู้ขับขี่มีความปลอดภัยในการเดินทาง ในวันที่ 20 ต.ค.2652 มีผู้ต่อคิวรับวัตถุมงคลต่อคิวยาวกว่า 5 กิโลเมตร สร้างความฮือฮาไปทั่ว

ด้านการช่วยเหลือสังคมและทางพระพุทธศาสนา ท่านก็ได้ช่วยสร้างวัดที่กำลังพัฒนาหลายแห่ง เช่น

1.วัดระกาไกรสร

2.วัดฉันเพล

3. วัดหนองหิน

4. วัดบ้านด่าน

5. วัดโนนสมบูรณ์

6.วัดกู่สัตธาราม

7.วัดบ้านเพี้ยราม

อีกทั้ง ยังได้จัดสร้างอาคารโรงพยาบาลพนมดงรัก และช่วยเหลือโรงเรียนต่างๆในจังหวัดสุรินทร์ พร้อมทั้งได้จัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์มอบให้กับโรงพยาบาลสุรินทร์อีกด้วย จนได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณมากมาย

หลวงปู่รอด เป็นพระที่ชาวบ้านศรัทธาในด้านศูนย์รวมทางจิตใจ มีเมตตาต่อทุกคนที่เข้าพบ ท่านได้รับความรู้ด้านตำรายาและการรักษาแบบโบราณจากหลวงปู่  3 องค์คือ หลวงปู่โด๊ะ ชื่อว่าพระครูอรุณสาธุกิจ  บ้านโคกวัด  ตำบลนาดี  อำเภอเมืองสุรินทร์  หลวงตาโด๊ะ มีครูอีกชั้นหนึ่งคือ หลวงปู่ชิด ชื่อ พระครูวิชิตธรรมคุณ  วัดบ้านลำดวน  ตำบลลำดวน หลวงปู่ริม  รัตนมุนี อดีตเจ้าอาวาสวัดอุทุมพร ตำบลทุ่งมน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เป็นผู้สร้างวัดเขาแหลม  ที่บ้านแนงมุด  ตำบลแนงมุด  อำเภอกาบเชิง  จังหวัดสุรินทร์  สรีระของท่านยังเก็บไว้ในมณฑป  ท่านเก่งกรรมฐาน กายทิพย์  หลวงปู่ทั้ง ๓ ให้ความเมตตาต่อหลวงปู่รอดเป็นอย่างมาก  และตำหรับยาบางส่วนหลวงปู่ก็ได้ศึกษาจากตำราโบราณที่บรรพบุรุษของท่านได้เขียนไว้  ไม่ว่าจะเป็นยารักษาโรคมะเร็ง ยารักษาโรคเบาหวาน และยารักษาอาการปวดเมื่อย  ที่หลายคนนำไปรักษาแล้วหาย  จนหลวงปู่ได้รับรางวัลมามากมายในด้านการใช้สมุนไพรรักษาโรค  ซึ่งสมุนไพรต่างๆ นั้นหลวงปู่ได้เข้าไปหามาจากป่าลึกบริเวณแนวตะเข็บชายแดนไทย-กัมพูชา

ในด้านการช่วยเหลือสังคมและทางพระพุทธศาสนา  ท่านก็ได้ช่วยสร้างวัดที่กำลังพัฒนาหลายแห่ง อีกทั้งยังได้จัดสร้างอาคารโรงพยาบาลพนมดงรัก และช่วยเหลือโรงเรียนต่างๆในจังหวัดสุรินทร์ พร้อมทั้งได้จัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์มอบให้กับโรงพยาบาลสุรินทร์ อีกด้วย  จนได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณมากมาย

ลำดับสมณศักดิ์ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบล ในราชทินนามที่ พระครูอาภัสร์ธรรมคุณ

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2553 สภามหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ มีมติถวายปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์

หลวงปู่รอด ได้บวชเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ 13 ปี และต่อมาเข้าบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2510 ที่ วัดศิรินทราราม ต.นาดี อ.เมืองสุรินทร์ โดยมีพระครูอรุณสาธุกิจ วัดศิรินทราราม เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “อาภสฺสโร” จนถึงปัจจุบัน

ในเดือนมีนาคม ปีเดียวกัน ศิลปินและนักแต่งเพลงเพื่อชีวิต "แอ๊ด คาราบาว" ยังได้แต่งเพลงชื่อว่าเพลง “หลวงปู่รอด” โด่งดังกระหึ่มทั่วประเทศมาแล้ว

พิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลครั้งล่าสุดที่วัด หลวงปู่รอด ยังได้ให้โอวาทธรรมเตือนสติลูกศิษย์ว่า

“สมัยนี้ญาติโยมโดยเฉพาะพ่อแม่ลูก เข้าวัดก็มักมาแต่มือเปล่า จะมาอาราธนานิมนต์พระไปงานบุญ งานบวช งานขึ้นบ้านใหม่ และงานพุทธาภิเษก จะต้องแต่งขันห้ามาด้วย”

เป็นพระเกจิที่มีคุณูปการด้านประโยชน์และสังคมส่วนรวม

ครั้งหนึ่ง นายณัฐวัฒน์  สมบูรณ์เทอดธนา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสังขะ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่ ได้เล่าถึงประสบการณ์ของขลังของหลวงปู่ ให้ฟังว่า  เมื่อปี 2554 ตนได้ขับรถจากตัว เมืองจังหวัดสุรินทร์ จะกลับไปที่อำเภอสังขะ เวลาประมาณ 6 โมงเย็น เป็นรถเบนซ์ซึ่งได้ขับมาด้วยความเร็วสูง  ปรากฏว่าได้เกิดอุบัติเหตุชนกับรถพ่วง จนรถได้เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้น   ซึ่งใน  ขณะนั้นมีตนและภรรยานั่งมาในรถ  แต่ก็ได้พากับหนีออกมาได้ทัน  และก็ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ  เลย  โดยในคอมีเพียง พระสมเด็จของหลวงปู่รอด เท่านั้นที่ห้อยคอไว้  จึงเชื่อว่าเป็นเพราะ  ปาฏิหาริย์ที่หลวงปู่รอดได้ช่วยตนและภรรยาไว้  หลังจากนั้นตนก็ได้ทุ่มเทกายใจรับใช้หลวงปู่  อย่างเต็มที่  เพื่อที่จะช่วยหลวงปู่ในการพัฒนาวัดโคกกรม  และเพื่อเป็นการทดแทนบุญคุณ  ของหลวงปู่ที่ช่วยให้ตนและภรรยารอดชีวิตมาได้ในครั้งนั้น  ซึ่งในขณะนี้ก็กำลังจะมีการระดม  ทุนเพื่อสร้างพระพุทธรูปยืน  ที่มีขนาดความสูง 48 เมตร  เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้ บูชาต่อไป

ผู้สื่อข่าวศูนย์อีสาน ได้เดินทางไปที่ วัดโคกกรม พบ พระครูปริยัติ บุญญาทร รองเจ้าคณะ ต.โคกกลาง เจ้าอาวาสวัดโนนสมบูรณ์ ต.โคกกลาง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จึงได้สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย พระครูปริยัติ บุญญาทร ได้เผยว่า

เมื่อคืนทราบจากพระแซม ที่ดูแลหลวงปู่ว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียหลวงปู่ตะโกนเรียก จึงได้รีบไปที่ห้องท่านซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไป ก็เห็นหลวงปู่ล้มนอนอยู่กับพื้นห้องแล้ว จึงได้รีบเข้าไปประคองและรีบนำตัวหลวงปู่ส่งโรงพยาบาลพนมดงรักทันที เมื่อไปถึงโรงพยาบาล ทีมแพทย์ได้ช่วยตรวจ รักษา อย่างเต็มที่ ซึ่งเมื่อตนเอง ไปถึงในเวลาประมาณ 22.44 น. ก็ได้เข้าไปจับที่ปลายเท้าของหลวงพ่อ ก็รู้สึกว่าเท้าก็เย็นหมดแล้ว ไม่มีอะไรตอบสนอง ม่านตาก็เปิดโล่งแล้ว จึงได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า หยุดได้แล้ว หลวงปู่ไปแล้ว จากนั้นตนเองก็เดินออกจากห้องมา เพราะรู้สึกว่าทำใจลำบาก จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ได้ถอดสายและเครื่องช่วยออก ก็ได้กลับมาอีกรอบ เพื่อเตรียมนำหลวงปู่กลับวัด