ผู้ว่าฯ ตราด ยืนยัน "เฮียเอี่ยว" เจ้าของคลับวัน สวมบัตรคนตาย ตั้งแต่ปี 35

4 พฤศจิกายน 2565 ความคืบหน้าคดีที่ ร้านคลับวัน พัทยา สถานบันเทิงชื่อดังเมืองพัทยา ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง  ตำรวจเข้าตรวจสอบ แต่เกิดการปะทะคารม ระหว่างเจ้าหน้าที่กับเจ้าของผับ โดยแอบอ้างข้าราชการระดับสูงจังหวัดชลบุรี ซึ่งภายหลัง นายนิติพัฒน์ โชคชัยธนพร อายุ 45 ปี หรือ "เฮียเอี่ยว" และ นายแบ้งค์ วรรณสีทอง อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นผู้บริหารของผับ “คลับวัน” ออกมากล่าวขอโทษ โดยอ้างว่าเมาสุรา ก่อนที่ต่อมา ตำรวจจะจับกุม "เฮียเอี่ยว" ที่เป็นคนจีน ในข้อหาสวมบัตรประชาชน ที่ออกโดย อ.เมือง จ.ตราด 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 
๐ ด่วน! รวบ "เฮียเอี่ยว" เจ้าของคลับวัน ผับดังพัทยา สวมสัญชาติ 

๐ ผู้ว่าฯ-ผู้การชลบุรี ยันไร้ส่วย "คลับวัน" จ่อฟ้องคนทำเสียหาย

๐ “คลับวัน พัทยา” ไม่จบ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ชงปิด 5 ปี เตรียมเอาผิดเจ้าของตัวจริง

๐ "บิ๊กโจ๊ก" ลั่น! ฟันไม่เลี้ยง เจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยวรับส่วย "คลับวัน พัทยา"

 

ล่าสุด นายชำนาญวิทย์ เตรันต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า นายนิติพัฒน์ หรือ "เฮียเอี่ยว" ออกบัตรประจำตัวประชาชนที่ จ.ตราด จริง ตั้งแต่ปี 2535 โดยใช้ชื่อผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งทางสำนักงานเทศบาลเมืองตราด เป็นหน่วยงานที่ออกบัตรประชาชนประจำตัวให้ ส่วนการตรวจสอบหาตัวเจ้าพนักงานที่ออกบัตรนั้น กำลังตรวจสอบว่า ผู้ออกบัตรยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เพราะระยะเวลาผ่านมา 30 ปี และยังไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ออกบัตรให้ 

ส่วน นายภิรมย์ ชุมนุม นายอำเภอเมืองตราด ระบุว่า ชาวต่างด้าวเชื้อชาติจีนรายนี้ มีบิดาเป็นชาวจีน ส่วนมารดาเป็นชาวนครราชสีมา ในยุคนั้นการทำบัตรประจำตัวประชาชน จะต้องทำเมื่ออายุได้ 15 ปี และผู้ทำบัตรจะต้องเขียนชื่อด้วยลายมือตนเอง จึงทำให้มีการทุจริตได้ง่าย ซึ่งจากการตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ ตรงตามระเบียบราชการทุกอย่าง และมีความเห็นในเรื่องดังกล่าวว่า พยานหลายคนเสียชีวิตไปหมดแล้ว เหลือเพียงนางสาวแต๋ว ผู้เป็นพี่สาวต่างมารดาของผู้ที่ถูกสวมบัตร ที่ปัจจุบันย้ายไปอยู่ จ.จันทบุรี เปลี่ยนชื่อเป็น นางฐิติกาญจน์ แซ่จึง อายุ 68 ปี  

ทีมข่าวเนชั่น ตรวจสอบเพิ่มเติพบว่า บัตรประชาชนของ นายนิติพัฒน์ หรือ เฮียเอี่ยว มีความเชื่อมโยงกับ นายธีระ จงพิทักษ์วศิน เกิดวันที่ 20 มกราคม 2520 ปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว เอกสารการทำบัตรพบว่า มีนางสาวแต๋ว แซ่จึง พี่สาวต่างมารดาของนายธีระ ได้มาเขียนคำร้อง ทำบัตรประชาชนให้น้องครั้งแรก ตอนอายุ 15 ปี ที่อำเภอเมืองตราด  มีบิดาคือนายวิชัย จงพิทักษ์วศิน เป็นคนจีนขอแปลงสัญชาติไทย มีมารดาชื่อนางม่วย เป็นคนไทย ส่วนผู้รับรองประกอบด้วย นายวิธี ลาภวิไล กำนัน ต.วังกระแจะ , นางสาวแต๋ว เจ้าบ้าน และเป็นพี่ต่างมารดาของนายธีระ , นางศรีเวียง รวดเจริญ คนทำคลอด , นางวันทนีย์ ขำศิริ เพื่อนบ้าน , นางสำลี วนาลัย ผู้รู้เห็น

ซึ่งทีมข่าวสอบถามเพิ่มเติมไปยังนางสาวแต๋ว พี่สาวของนายธีระ บอกว่า ตัวเองตกใจมาก ที่มีชื่อปรากฎในข่าวว่าเป็นผู้เซ็นรับรองให้น้องชายต่างแม่ คือนายธีระ ยืนยันว่า น้องชายเสียชีวิตไปนานแล้วที่กรุงเทพฯ ส่วนคนที่มาสวมบัตรประชาชนน้องชายในข่าว ตนเองไม่เคยรู้จักแต่อย่างใด  วัน ๆ แค่ทำมาหาเลี้ยงลูก 8 คนก็เหนื่อยแล้ว จึงขอชี้แจงทำความเข้าใจให้ตรงกัน

นายวรวิทย์ แสงสว่าง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เล่าว่า นางสาวแต๋วได้ย้ายมาอยู่จันทบุรี ได้ประมาณ 10 ปี ประกอบอาชีพค้าขายในพื้นที่โดยตลอด ย้ายที่อยู่มาแล้ว 2 - 3 ครั้ง ส่วนจะไปเกี่ยวกับกระบวนการสวมบัตรประชาชนหรือไม่นั้น ยืนยันว่า ในพื้นที่หมู่บ้านตัวเอง ไม่มีการสวมบัตร หรือเคยไปรับรองให้กับลูกบ้าน ที่คิดจะมาสวมรอย หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ได้นำตัวนางสาวแต๋ว ไปตรวจหาดีเอ็นเอแล้ว จะทราบผลภายในเวลา 30 วัน เพื่อนำมาประกอบสำนวนการสอบสวนให้เกิดความรัดกุม

มีรายงานว่า ในอดีต พื้นที่ จ.ตราด พบการทุจริตเรื่องการทำบัตรประจำตัวประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเขต อ.เมืองตราด และ อ.บ่อไร่  ทำให้มีปลัดอำเภอ และอดีตนายอำเภอ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทะเบียน ถูกดำเนินคดีและถูกไล่ออกมาแล้วหลายราย 

ข่าว : จักรกฤช แววคล้ายหงษ์ สำนักข่าวเนชั่น จ.ตราด