สตม.โชว์ 5 คดีต่างด้าว เข้ามาก่อคดีในประเทศ
ตม.เปิดผลจับกุม 5 คดี ในความผิดฐานหลบหนีเข้าเมือง หรืออยู่เกินกำหนด โดยการปฏิบัติงานเด่นสำคัญ การทลายเครือข่ายเว็บพนันจีน รวบได้ 56 ผู้ต้องหา ต่างด้าวเข้ามารับจ้างหัวละ 40,000 - 70,000 บาท ทำหน้าที่แอดมิน สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้านบาท
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 เวลา 10.30 น" พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเเข้าเมือง (ผบช.สตม.) พร้อมเจ้าหน้าที่ ตม. ตำรวจ PCT ร่วมแถลงผลการระดมจับกุมบุคคลต่างด้าว , หลบหนีเข้าเมือง ,อยู่เกินกำหนด ,ติดตามผู้กระทำความผิด และขยายผลการจับกุม รวมทั้งสิ้น 4 คดี
คดีแรก การจับกุม นายบุน ซู (นามสมมุติ) อายุ 62 ปี ชาวเกาหลี โดยเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ว่า ผู้ต้องหาเป็นที่ต้องการตัวของตำรวจเกาหลี มีพฤติการณ์ฉ้อโกง หลอกลวงเพื่อนร่วมชาติ โดยอ้างว่าตนเองเปิดร้านเอาท์เล็ทในกรุงเทพฯ ประมาณ 30 แห่ง ถ้าผู้เสียหายส่งเสื้อผ้าจากเกาหลีมสไทย จะขายได้ในราคา 3 - 15 เท่า ของราคาเดิม ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินให้ ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2559 ถึง เดือน มีนาคม 2560 รวม 36 ครั้ง สูญเงินกว่า 3,558 ล้านวอน คิดเป็นเงินไทย 100 ล้านบาท ตำรวจจึงสืบสวนจนทราบแหล่งพำนัก ก่อนจะเข้าจับกุมได้ในที่สุด
คดีที่ 2 การจับกุม นายมาร์โก้ (นามสมมุติ) อายุ 50 ปี ชาวออสเตรีย ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ทางสหภาพยุโรปต้องการตัว ในคดีความผิดฐานฉ้อฉลล้มละลาย และฐานความผิดฉ้อโกงประกันสังคม รวมความผิดกว่า 7 กระทง จนสามารถสืบทราบว่าผู้ต้องหาพักอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.พังงา จึงประสานงานกับ ตม.จว.พังงา เพื่อจับกุม และส่งกลับสาธารณรัฐออสเตรียต่อไป
คดีที่ 3 ผลปฏิบัติการทลายแก๊งค์เว็บพนันชาวจีน จับผู้ต้องหาเป็นคนจีนได้ 56 คน โดยใช้ชื่อเว็บพนัน เห่อซิง และ คายยุน ใช้พื้นที่ สวนหลวง และ หัวหมาก ในการทำงานเป็นแอดมินเว็บพนัน พบเงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้านบาท โดยทั้งหมดเข้ามาในประเทศด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว รับค่าจ้างคนละ 40,000 - 70,000 บาท
คดีที่ 4 การจับกุมต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ในพื้นที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.กาญจนบุรี รวมทั้งสิ้น 88 คน ซึ่งเป็นการขยายผล คดีจับแรงงานต่างด้าว จ.ปทุมธานี
คดีที่ 5 การจับกุม นายคามาเลส (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ชาวอินเดีย ในข้อหาอยู่ในราชอาณาจักรเกินกว่าที่ได้รับอนุญาต 1,084 วัน จากประวัติเคยพักอาศัยใน จ.ปทุมธานี ก่อนมีปัญหากับคนในพื้นที่ จึงหนีออกไปอยู่ที่ จ.สุรินทร์ จากนั้นมีพฤติการณ์ตั้งตัวเป็นผู้มีอิทธิพล อ้างว่ารู้จักกับนายตำรวจ เรียกเก็บเงินจากเพื่อนร่วมชาติ
หากประชาชนพบเห็นการกระทำความผิด หรือต้องการแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หรือ หมายเลขโทรศัพท์ 1178 และที่เว็บไซต์ www. immigration .go.th
