“สุพัฒนพงษ์” มั่นใจเศรษฐกิจปีนี้โตเชิงบวก โว อีก 2 ปี เป็นเป้าหมายนักลงทุน
“สุพัฒนพงษ์” มั่นใจเศรษฐกิจปีนี้โตในเชิงบวก โว เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงระหว่างสองทะเล ตั้งแต่จีนถึงใต้สุดของไทย ในอีก 2-3 ปี ส่งผลต่างชาติมาลงทุนมากขึ้น ฟุ้ง เป็นศูนย์กลางยานยนต์โลก ระบุ ปี 65 รถพลังงานไฟฟ้า โต 275 %
27 ตุลาคม 2565 นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ร่วมกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “Accelerating Thailand 2022” ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร
โดยนายสุพัฒนพงษ์ กล่าวในตอนหนึ่งว่า ตัวเลขเศรษฐกิจในปีนี้ค่อนข้างมั่นใจว่าเราเติบโตในเชิงบวก ประเทศไทยยังมีความแข็งแรงในเรื่องของเสถียรภาพการเมือง การคลังของรัฐบาล แนวโน้มเศรษฐกิจถดถอยเป็นเรื่องที่ทุกประเทศเคยเจอ การเจอปัญหาโควิด-19 สองปีที่ผ่านมากลายเป็นเรื่องยากกว่า เพราะเป็นสิ่งที่ไม่เคยเจอ แผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 13 ออกมาแล้วเพื่อพัฒนาประเทศไทย วันนี้ทางฝั่งตะวันออกสามารถขนส่งในชายแดนได้อย่างสะดวก ฝั่งตะวันตกเส้นทางมอเตอร์เวย์กำลังสร้างเพื่อไปยังประเทศเมียนมา คาดในอีก 2 ปีเสร็จแน่นอน เพราะฉะนั้นตะวันออกและตะวันตกสามารถเชื่อมจีนได้อย่างแน่นอน
ภาพรวมในอีก 2-3 ปี การใช้ไทยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงระหว่างสองทะเลสามารถทำได้ ตั้งแต่จีนไปถึงใต้สุดของไทย เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการชักชวนต่างประเทศเข้ามาร่วมลงทุน ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการผลิตยานยนต์ของโลก เราทำนโยบายส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งปีนี้ยอดขายโตถึง 275 %
เราจะเป็นประเทศที่เข้าสู่ความเป็กลางทางคาร์บอนประเทศแรกๆในอาเซียนในปี 2050 และจะทำให้เร็วกว่านั้น การทำ Green Thailand จะทำให้เปลี่ยนทุกระบบ เราจะพัฒนาเมืองให้ทุกคนอยากมาลงทุน และเอื้อความเป็นกลางทางคาร์บอน ไม่ว่าโลกนี้จะมีความเห็นต่าง แต่ความเห็นตรงกันคือโลกต้องมีอุณหภูมิไม่สูงเกินไป
นอกจากนี้นายสุพัฒนพงษ์ ยังกล่าวอีกว่า ทิศทางที่เราเดินไปข้างหน้าเชื่อว่าการลงทุนในปีหน้าในเรื่องของ BCG และ Green Thailand จะเกิดขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก จากวันนึ้เป็นต้นไปจนถึงหลังการประชุมเอเปคจะมีกลุ่มนักธุรกิจหลายประเทศเข้ามาเยี่ยมชม ซึ่งเป็นหน้าที่ของตนที่จะสร้างความมั่นใจให้เกิดการลงทุน
ทั้งนี้ในช่วงโควิด-19 ทำให้ได้คิดค้นดิจิทัลแพลตฟอร์มเสมือนเงินสด ธนาคารหลายแห่งสนใจที่จะทำดิจิทัลเรตติ้ง