25 ตุลาคม 2565 บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน รอบเดือนพฤศจิกายน 2565 จากยอดผู้ถือบัตรจำนวน 13.45 ล้านราย ผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบ กำหนดการโอนเงินแต่ละรอบ รายละเอียดมีดังนี้
เปิดไทม์ไลน์กำหนดการโอนเงิน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน เดือนพฤศจิกายน 2565
วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565
เติมเงิน ซื้อสินค้า กลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ได้รับ 300 บาท/เดือน
กลุ่มที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท ได้รับ 200 บาท/เดือน
ค่าก๊าซหุงต้มจำนวน 100 บาท (ระหว่างเดือน เม.ย.-มิ.ย. 2565)
ค่ารถโดยสาร บขส. 500 บาทต่อเดือน รถไฟฟ้า (MRT+BTS+ARL) / ขสมก. 500 บาทต่อเดือน
ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2565
เงินคืนค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
เงินคืนค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรฯ เป็นผู้ชำระเอง
ถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไป
หมายเหตุ: ครม.อนุมัติ ต่ออายุค่าน้ำ และ ค่าไฟ ออกไปอีก7 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 - เมษายน 2566
วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565
มีบัตรประจำตัวคนพิการ ได้รับเบี้ยความพิการ (บัญชีธนาคาร/อปท.) จำนวน 800 บาท
กดเป็นเงินสดได้
ขอขอบคุณที่มา : กรมบัญชีกลาง
คลังเผยยอดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐพุ่งเกือบ 22 ล้านคน แต่เป็นยอดที่ต้องตรวจสอบคุณสมบัติอีกครั้ง ขณะที่ การเปิดลงทะเบียนจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ต.ค.นี้
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการเปิดรับลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 (โครงการฯ) ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน – 25 ตุลาคม 2565 ณ เวลา 09.00 น. มีประชาชนลงทะเบียนแล้วทั้งสิ้น 21,997,577 ราย โดยเป็นการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ 9,763,514 ราย และลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียน 12,234,063 ราย
จำนวนผู้ลงทะเบียนข้างต้นเป็นเพียงจำนวนผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ เท่านั้น โดยการเป็นผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติตามโครงการฯ อีกครั้งหนึ่ง
นอกจากนี้ การลงทะเบียนตามโครงการฯ เป็นการลงทะเบียนรายบุคคล(ผู้ลงทะเบียน) แต่การตรวจสอบจะตรวจสอบทั้งรายบุคคลและสมาชิกในครอบครัว
โดยขั้นตอนแรกจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้ (เกณฑ์บุคคล) หากผู้ลงทะเบียนผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์บุคคลโดยมีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้จะมีการตรวจสอบคุณสมบัติของเกณฑ์ครอบครัว (ในกรณีที่มีคู่สมรสหรือบุตร) ซึ่งหากพบว่าผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์ครอบครัวจะถือว่าผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านคุณสมบัติและผู้ลงทะเบียนจะไม่ได้รับสิทธิตามโครงการฯ
โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า
ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถลงทะเบียนได้จนถึงวันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม 2565 โดยสามารถลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั่วประเทศ หรือลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนแล้ว และมี “สถานะการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์” สามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ ณ ที่ว่าการอำเภอ/สำนักงานเขต
โดยหากพบว่าข้อมูลไม่ถูกต้อง ขอให้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้อง หรือหากพบว่าข้อมูลที่ลงทะเบียนไม่ตรงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์ เช่น จำนวนบุตรที่อายุต่ำกว่า 18 ปี มีจำนวนมากกว่าข้อมูลบุตรที่ลงทะเบียนไว้ เป็นต้น ให้ติดต่อแก้ไข โดยหากเป็นผู้ที่ลงทะเบียนที่หน่วยงานรับลงทะเบียนจะต้องติดต่อขอแก้ไขข้อมูล ณ หน่วยงานรับลงทะเบียนที่ผู้ลงทะเบียนได้ยื่นแบบฟอร์มลงทะเบียนไว้แล้วเท่านั้น
สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ สามารถติดต่อขอแก้ไขข้อมูลที่หน่วยงานรับลงทะเบียนใดก็ได้ โดยจะต้องแก้ไขให้แล้วเสร็จภายในวันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน 2565
"กระทรวงการคลัง ได้อำนวยความสะดวกให้ประชาชนผู้สนใจโดยเปิดช่องทางให้สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ได้ รวมถึง ได้มีการขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนกลุ่มเปราะบางที่ตกหล่นจากการลงทะเบียนในรอบที่ผ่านมาให้มีโอกาสได้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งเป็นการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้สามารถเข้าร่วมโครงการฯ ได้อย่างทั่วถึง ซึ่งส่งผลให้มีจำนวนผู้ลงทะเบียนเพิ่มขึ้นจากรอบที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ผู้ที่จะได้รับสิทธิ์สวัสดิการจะต้องผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติตามที่โครงการฯ กำหนดด้วย ซึ่งจะได้มีการตรวจสอบในขั้นตอนต่อไป" โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าว