svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

หลอน “หนุ่มกาฬสินธุ์” ไล่ทุบรถชาวบ้าน รื้อสายไฟ อ้างทำอะไรก็ได้ไม่ผิด

21 ตุลาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

หนุ่มวัย 42 ปี ชาวกาฬสินธุ์ หลอนพุ่งเข้าไปทุบรถ ทุบกระจกรถชาวบ้าน แล้วเปิดฝากระโปรง รื้อสายไฟคล้ายจะต่อสายตรง อ้างทำอะไรก็ได้ไม่ผิด ด้านผู้เห็นเหตุการณ์เร่งเข้าระงับเหตุ

21 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท ศิริชัย เจริญศิริ สารวัตร(สอบสวน) สภ.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่ามีคนร้ายมีอาการเมา เข้าไปทุบรถของชาวบ้านที่จอดไว้ได้รับความเสียหาย จึงรุดเข้าไปตรวจสอบ

 

หลอน “หนุ่มกาฬสินธุ์” ไล่ทุบรถชาวบ้าน รื้อสายไฟ อ้างทำอะไรก็ได้ไม่ผิด

 

ที่เกิดเหตุพบนายประภาส ศิลาชัย อายุ 42 ปี ชาวต.เหล่าไฮงาม อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ อยู่ในอาการเบลอ พูดจาพอรู้เรื่อง ใกล้กันพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า  

 

หลอน “หนุ่มกาฬสินธุ์” ไล่ทุบรถชาวบ้าน รื้อสายไฟ อ้างทำอะไรก็ได้ไม่ผิด

 

สภาพประตูขวามีร่องรอยการถูกทุบ กระจกข้างฝั่งคนขับแตก ภายในเก๋งของรถ มีร่องรอยการงัดแงะ รื้อสายไฟออกมา จนท.จึงควบคุมตัวเอาไว้ สอบถามเบื้องต้นนายประภาส บอกว่า “ที่ดินนี้เป็นที่ดินของผมจะทำอะไรก็ได้”ก่อนจะนำไปสอบสวนต่อที่ สภ.ประโคนชัย

สอบถามนายประภาส ศิลาชัย อายุ 50 คนเห็นเหตุการณ์ เล่าว่าเห็นผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์มาจอด แล้วลงมือใช้ไม้ทุบรถแบบบ้าคลั่ง จากนั้นได้ใช้ไม้ทุบกระจกข้างฝั่งคนขับ แล้วเข้าไปเปิดฝากระโปรงรถ ก่อนจะทำการรื้ออะไรบางอย่างภายในตัวรถ คล้ายกับจะต่อไฟตรงเพื่อขับรถออกไป

 

หลอน “หนุ่มกาฬสินธุ์” ไล่ทุบรถชาวบ้าน รื้อสายไฟ อ้างทำอะไรก็ได้ไม่ผิด

 

ทั้งนี้ นายวุฒิพงษ์ กระมล อายุ 47 ปี  ชาวต.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย เจ้าของรถเล่าว่า ตนขับรถเข้าบ้านไม่ได้ เพราะน้ำท่วมจึงเอามาจอดไว้บริเวณนี้ ซึ่งห่างจากบ้านประมาณ 100 เมตร

 

หลอน “หนุ่มกาฬสินธุ์” ไล่ทุบรถชาวบ้าน รื้อสายไฟ อ้างทำอะไรก็ได้ไม่ผิด

หลังได้รับแจ้งจึงรีบออกมาดู พบว่ารถเสียหายหลายรายการ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนจะไม่ยอมเด็ดขาด ผู้ก่อเหตุจะต้องมารับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ส่วนจะเมายาหรือไม่ตนไม่สนใจ เพราะถือว่าทำเกินไป

 

หลอน “หนุ่มกาฬสินธุ์” ไล่ทุบรถชาวบ้าน รื้อสายไฟ อ้างทำอะไรก็ได้ไม่ผิด

 

สำหรับนายประภาส เป็นคนพื้นเพอยู่ที่ อ.ประโคนชัย หมู่บ้านที่เกิดเหตุ ย้ายตามพ่อซึ่งเป็นตำรวจไปอยู่จังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อหลายปีที่ผ่านมา คาดว่าน่าจะขับรถจากจังหวัดกาฬสินธุ์ กลับมาเยี่ยมบ้านเกิด ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวน แต่ไม่ทำการตรวจหาสารเสพติด ระบุว่าทั้งสองฝ่ายจะมาเจรจากันเอง

logoline