"บิ๊กเด่น" สั่ง จเร-คณะทำงานฯ ตร. คลี่ปม ผู้การฯ นราธิวาส ช่วยแก๊งขายยานรก

20 ตุลาคม 2565 ความคืบหน้ากรณีที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีหนังสือคำสั่งเด้ง พล.ต.ต.แวสาแม สาและ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดนราธิวาส เข้ากรุ เซ่นกรณี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ร้องเรียนให้ตรวจสอบ กรณีผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ออกใบรับรอง เอื้อประโยชน์ให้ผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติด และอาวุธสงคราม พร้อมจ่อตั้งคณะกรรมการสอบสวนรื้อคดีใหม่

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เซ่น ออกใบรับรองให้ผู้ต้องหาค้ายา-อาวุธ เด้งผู้การฯ นราธิวาส เข้ากรุ
: “อัจฉริยะ” หอบหลักฐานส่ง สตช. เดินหน้าเล่นงาน“นายพลตำรวจ”พัวพันค้ายา
: “อัจฉริยะ ”จี้สอบ ผู้การฯนราธิวาส ออกบัตรเบ่งแก๊งค้ายา-อาวุธสงคราม
 

ภายหลัง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า หลังคำสั่งย้าย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส มาช่วยราชการ ที่ ศปก.ตร. ดังกล่าว หลังจากนี้ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ในระดับ ตร. เพิ่มอีกคณะ ในกรณีที่ผู้การฯ นราธิวาส ถูกกล่าวอ้างว่า มีการช่วยเหลือผู้ต้องหาในคดียาเสพติด และเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงทางคดีโดยเร็วที่สุดก่อน จึงให้รายงานผลโดยเร็วที่สุดใน 7-15 วัน 

ส่วนจะเกี่ยวพันกับนายตำรวจคนอื่นหรือไม่ ในชั้นนี้ยังไม่ขอตอบ เพราะทุกอย่างต้องมีพยานหลักฐาน จึงขอเร่งสอบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงโดยเร็วที่สุดก่อน ยืนยันไม่ปกป้องคนผิด หากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่ามีความผิด ก็พร้อมดำเนินการทางอาญาและวินัย

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ “จเรตำรวจ" เป็นหน่วยพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น และขณะนี้ได้สั่งการให้ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส มาปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร. ก่อน โดยให้ พล.ต.ต.ปราบพล มีมงคล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 มารักษาราชการแทน 

พร้อมทั้งได้ตั้งผู้บังคับบัญชาระดับ ตร.​ลงไปตรวจสอบ สืบสวน ขยายผล และรายงานข้อเท็จจริงให้ทราบ หากมีมูลก็จะตั้งเป็นคณะทำงานสืบสวนสอบสวนอีกคณะหนึ่ง โดยจะเป็นคนละคณะกับจเรฯ เนื่องจากเรื่องที่ถูกร้องเรียนมีความเกี่ยวข้องกับคดีอาญา เพื่อความโปร่งใสและเป็นธรรม หากพบว่า มีการกระทำความผิดจริงจะมีดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญา โดยได้วางกรอบระยะเวลาการทำงานไว้ให้รายงานทุก 7 วัน  

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ขอประชาสัมพันธ์ช่องทางให้ประชาชนทราบ สามารถแจ้งเบาะแส หรือให้ข้อมูล กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้หลายช่องทาง ดังนี้ เฟซบุ๊ก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ผ่านระบบออนไลน์ JCOMS (ไม่ระบุตัวตน) หรือ โทร. 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชม. โดยจะมีการตรวจสอบ ติดตาม แจ้งผลให้ผู้แจ้งทราบเป็นระยะ