"สนธิญา" รับ ระแวง หลัง "ศรีสุวรรณ"ถูกทำร้าย ยื่น 15 ข้อ ร้อง ตรวจสอบ "โน้ส อุดม"

19 ตุลาคม 2565  ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล นายสนธิญา​ สวัสดี​ อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร​ ได้เข้ายื่นหนังสือถึง​ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเดี่ยว 13 ของ “โน้ส” อุดม แต้พานิช พาดพิงนายกรัฐมนตรี  

 

นายสนธิญา กล่าวว่า  วันนี้ไม่ได้มาแจ้งความ แต่มาร้องเรียน โดยได้นำรายละเอียดต่างๆของการแสดงโชว์เดี่ยว 13 ของโน้ส อุดม ที่มีการพาดพิง 15 ประเด็น มาขอให้ ตำรวจนครบาลได้ตรวจสอบว่า เป็นไปตามประเด็นที่มาร้องเรียนเข้าสู่ความผิดทางกฎหมายหรือไม่อย่างไร มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงหรือไม่ ยืนยันว่า ไม่ได้มีเรื่องโกรธเคืองกับ โน้ส อุดม และยังรักเหมือนเดิม แต่ต้องการทำความจริงให้ปรากฎ ซึ่งหากมีการพูดโดย ไม่นำออกมาเผยแพร่สู่สาธารณะก็มองว่าทำได้ แต่เมื่อนำมาเผยแพร่สู่สาธารณะ ก็อาจจะทำให้เข้าข่ายผิดกฎหมาย ทั้ง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ และเข้าข่ายความผิด ม.116 หรือไม่

 

 

ทั้งนี้หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้ว พบว่าไม่มีความผิด ตนเองก็น้อมรับว่าไม่มีความผิด และเรื่องก็จบ แต่หากเข้าข่ายความผิด ก็พร้อมจะเป็นพยานให้ และการมาร้องเรียนให้ตรวจสอบวันนี้มาในฐานะพลเมืองตามรัฐธรรมนูญ ส่วนประเด็นข้อร้องเรียนที่มองว่า เข้าข่ายความผิด ม.116 คือ ประเด็นที่มีการพูดถึงเรื่องการชุมนุม ส่วนประเด็นเข้าข่ายความผิด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือนำเข้าข้อความอันเป็นเท็จ คือกรณีที่กล่าวถึงการกู้เงินเป็นสิบๆล้าน และยังมีอีกหลายประเด็นที่ข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริง

ยกตัวอย่าง ประเด็น 15 ข้อที่มาร้องเรียน เช่น คำพูดที่ว่า

-ตอนนี้ประเทศขับเครื่องบินโดย รปภ.

-อย่าบอกว่ายุทธศาสตร์ 20 ปี แค่ 20 นาทีก็นานเกินไปแล้ว

-คอมพิวเตอร์มีมันสมองประมวลผล แต่หน่วยความจำของท่านไม่มี

-เลือกลุงตู่ ทำใจ ทำใจ ทำใจ

-วันนี้รถติดเยอะหน่อย มีม็อบที่เราอยากไล่เขาก็ให้อภัยเขาไปนะครับถือว่าทำงานแทน

-นโยบายขี้โม้ แรงงาน 400 บาท

-ใจถึงพึ่งไม่ได้

-สร้างปัญหาต่อ ก่อปัญหาใหม่

-ยืนยันความโปร่งใส แต่ไม่ให้ตรวจสอบ

-แก้ปัญหาชาติ ด้วยการแต่งเพลง

-แก้ปัญหาด้วยการโมโห

-กู้กู้กู้มาหลายชาติ ล่าสุดพึ่งกู้ญี่ปุ่น

-และเป็นหนี้สิบสิบล้าน

ประเด็นที่ร้องเรียน ใกล้เคียงกับประเด็นของนายศรีสุวรรณ จรรยา เพียง 1 ประเด็นส่วนประเด็นอื่นๆไม่เหมือนกัน

 

ส่วนกรณีที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีของ โน้ส อุดม ว่า มีการพูดล้อในหลายๆการแสดงในหลายๆรัฐบาลนั้น มองว่า เป็นความเห็นส่วนตัวของพลเอกประวิตร และตนเองก็เคารพพลเอกประวิตร แต่นี่ก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของตนเอง และตนเองก็ไม่ได้ไปขัดแย้งกับพลเอกประวิตร แต่ต้องการทำให้ความจริงปรากฏ และที่มาร้องเรียนในเดี่ยวนี้ ไม่ได้ร้องเรียนในเดี่ยวอื่นๆนั้น กรณีที่ผ่านมา อย่างที่ โน้ส อุดม เคยพูดถึง นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีการพูดล้อว่า ประเทศซิดนีย์ และถนนคอนกรีต แต่ไม่ได้เป็นการพูดยาวเหมือนครั้งนี้

 

นายสนธิญา ยังขอเรียกร้องไปยังทุกกลุ่มทุกฝ่าย เพราะขณะนี้อยู่ในระบอบประชาธิปไตย ความคิดต่างเป็นเรื่องที่สร้างสรรค์ในทางสังคม จึงมองว่าควรต้องมาพูดคุยกันดีๆโดยใช้เหตุผล และตนเองก็ได้ไปแสดงความเห็นต่างมาโดยตลอด เพื่อยืนยันในความคิดเห็นส่วนตัว ซึ่และตนเองไม่ได้เกลียดใครเป็นการส่วนตัว แต่ที่ทำก็เพื่อให้ประเทศเดินไปสู่การพัฒนาระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายศรีสุวรรณ เมื่อวานนี้(18 ต.ค) นั้น ตนเองมองว่า เป็นเรื่องปกติด้านความคิดที่แตกต่างแต่ในเรื่องพฤติกรรมที่แสดงออกมา เชื่อว่าคนไทยส่วนมากรับไม่ได้ และพฤติกรรมเหล่านี้ ไม่ควรนำมาใช้กับคนที่คิดต่าง ขนาดตนเองกับคนในครอบครัวเองก็คิดไม่เหมือนกัน แต่อยู่ด้วยกันได้ เพราะยอมรับซึ่งกันและกัน แต่การใช้กำลังที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ตนเองก็กลัวว่า วันนี้ใช้กำลังกันแบบนี้ แล้ววันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร อาจรุนแรงขึ้นไปกว่าเดิมหรือไม่ และเน้นย้ำว่า “การใช้สิทธิเสรีภาพ วิพากษ์วิจารณ์ หรือ บูลลี่ คนอื่นนั้น สามารถทำได้ แต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของคนอื่นด้วย ความคิดต่างเป็นเรื่องสร้างสรรค์ในสังคม แต่ควรมาพูดคุยกันด้วยเหตุผล”

สำหรับตนเอง มีการระมัดระวังตัวมาตลอดอยู่แล้ว เพราะทำหน้าที่ร้องเรียนมาตั้งแต่ปี 2550 ทำมาตลอดในหลายประเด็นที่ไม่เป็นธรรม และการร้องเรียนของตน ก็ทำให้มีผู้ที่ต้องเสียผลประโยชน์ จึงต้องระมัดระวังตัวเป็นธรรมดา และถ้ามีปัญหากัน ตนก็ต้องวิ่งก่อน ไม่เข้าไปยุ่ง ต้องรักษาตัวเอง

 

นายสนธิญา กล่าวด้วยว่า วันนี้ที่เดินทางมายื่นเรื่องร้องเรียนที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลนั้น ยอมรับว่า เป็นวันที่ตื่นเต้นมากสุด ตื่นเต้นตั้งแต่อยู่ที่บ้าน เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นหรือไม่ แต่ก็เชื่อมั่นว่าที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ถ้ามี ตนก็พร้อมน้อมรับ และจะไม่ตอบโต้เหมือนนายศรีสุวรรณ เพราะการเข้ามาทำงานตรงนี้ จะผิดหรือถูก ประชาชนจะพิจารณาเองอยู่แล้ว

 

“ขอฝากให้กำลังใจนายศรีสุวรรณ ในฐานะประชาชนด้วยกัน ว่าขอให้สุขภาพแข็งแรง ตนไม่มั่นใจว่าวันนี้นายศรีสุวรรณจะลุกไหวหรือไม่ เพราะการถูกต่อย แรกๆ มักจะไม่เจ็บมาก แต่เวลาผ่านไปจะมีอาการระบม และตนเองขอให้กำลังใจทุกฝ่าย อยากให้สามัคคีกัน และฝากถึงผู้ที่เห็นต่างว่า ขอความกรุณาอย่ามาต่อยตน หากฟันหัก ก็ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปใส่ฟันปลอม”

 

ทั้งนี้ระหว่างการให้สัมภาษณ์นั้น ผู้สื่อข่าวสังเกตว่า นายสนธิญา มีอาการระมัดระวังตัว และหวาดระแวงอยู่ตลอด โดยจะคอยหันซ้ายหันขวา และเมื่อมีใครมายืนข้างหลังก็จะหันไปมอง ซึ่งนายสนธิญาก็บอกว่า ยอมรับว่าระแวง แต่ตนเองเคยเรียนมวยสากลมา จบวิทยาลัยพลศึกษา เคยขึ้นต่อยมาน็อคทุกราย แต่ตอนนี้แก่แล้วคงสู้ไม่ได้ ถ้าจะให้ต่อยคงไม่เอา

 

สำหรับบรรยากาศที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล วันนี้ มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ มากกว่าการเดินทางเข้ามายื่นหนังสือร้องเรียนในทุกครั้ง ซึ่งมีกำลังจาก สน.ดุสิต มาดูแลความสงบเรียบร้อย ตลอดการให้สัมภาษณ์ การยื่นหนังสือ และการส่งนายสนธิญา ขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับ ซึ่งนายสนธิญา ได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย