15 ตุลาคม 2565 ดราม่า “โน้ส อุดม” หลังทอล์กโชว์ “เดี่ยว 13” ของ “โน้ส” อุดม แต้พานิช กลายเป็นกระแสร้อนแรง เมื่อเทปบันทึกการแสดงสดถูกเผยแพร่ทาง Netflix เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากเนื้อหาของทอล์กโชว์มีการแซว วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม
ต่อมา “ศรีสุวรรณ จรรยา” เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กเดนหน้าเอาผิด “โน้ส อุดม” กระทั่งมีการโพสต์โพสต์ตอบโต้กันบนโซเชียลมีเดียจนเกิดแฮชแท็กร้อนแรง โดย “โน้ส อุดม” ใช้แฮชแท็ก #กูสะดวกแบบนี้ ขณะที่ “ศรีสุวรรณ จรรยา” ผุดแฮชแท็ก #กูก็สะดวกที่จะร้องเรียนแบบนี้ เป็นการตอบโต้ พร้อมยืนยันจะเอาผิด โน้ส อุดม ประเด็นบิดเบือนข้อมูล และ บูลลี่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
"ศรีสุวรรณ" ฟาดกลับ "โน้ส อุดม" #กูก็สะดวกร้องเรียนแบบนี้!
โน้ส อุดม โพสต์ฟาด #กูสะดวกแบบนี้ หลังเจอกระแสตีกลับ ด้านแฟนๆแห่ให้กำลังใจ
ดราม่า “เดี่ยว 13” เดือด “ศรีสุวรรณ” ลั่นถึง “โน้ส อุดม” เดี๋ยวเจอกัน
ล่าสุด นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ได้ออกมาแสดงความเห็นทางกฎหมาย ผ่านเพจเฟซบุ๊ก "สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย" ถึงเรื่องดังกล่าวได้อย่างน่าสนใจ มีเนื้อหาดังนี้..
ตามที่เกิดประเด็นเกี่ยวกับ การแสดงเดี่ยวไมโครโฟน 13 ของคุณโน้ต อุดม แต้พานิช บางส่วน ที่เป็นการแสดงความคิดเห็นในเชิงวิพากษ์วิจารณ์ว่า การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ล้มเหลว ซึ่งก็มีประชาชนแสดงความคิดเห็น ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย อันนำไปสู่ประเด็นที่มีบุคคลอ้างว่า การกระทำของ คุณโน้ต อุดม แต้พานิช ไร้เหตุผล ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อสาธารณชน และผิดกฎหมาย
สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ขอแสดงความคิดเห็นว่า ด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 34 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อสารความหมายโดยวิธีอื่น การจำกัดเสรีภาพดังกล่าวจะกระทำมิได้
ฉะนั้น การแสดงของคุณโน้ต อุดม แต้พาณิช ดังกล่าว เป็นเพียงแค่การแสดงความคิดเห็น การถ่ายทอดความรู้สึก และเป็นการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลที่ล้มเหลว หาใช่การแสดงข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือการกล่าวหา ใส่ร้ายผู้อื่นให้ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด
อีกทั้ง รัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรี เป็นบุคคลสาธารณะที่ต้องยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนได้ ประกอบกับการแสดงความคิดเห็นดังกล่าว ยังสอดคล้องกับความรู้สึกของประชาชนที่เห็นด้วยส่วนใหญ่ ที่เป็นเจ้าของประเทศ เจ้าของอำนาจอธิปไตย ตลอดจนเป็นผู้เสียภาษีให้กับรัฐ ถือเป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรง ที่ได้รับผลกระทบจากการทำงานของรัฐบาลที่ล้มเหลว ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ตลอดระยะเวลา 8 ปี ที่ผ่านมา จึงย่อมมีสิทธิตรวจสอบและวิพากษ์วิจารณ์
สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย เห็นว่า รัฐบาลควรปล่อยให้ประชาชนได้มีการตรวจสอบและวิพากษ์วิจารณ์ การทำงานของรัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรี ให้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นการแสดงความคิดเห็นในรูปแบบใด และสำคัญที่สุด รัฐบาลหรือผู้มีอำนาจต้องไม่ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือดำเนินคดีกับผู้ที่เห็นต่าง อันจะทำให้บ้านเมืองเข้าสู่ความขัดแย้ง และนำไปสู่การใช้ความรุนแรงแบบไม่จบสิ้น
กรณีดังกล่าว น่าจะเป็นประโยชน์และอุทาหรณ์ ให้เห็นว่า ความคิดเห็นที่แตกต่างของประชาชน เป็นเรื่องปกติและเป็นสิ่งที่สวยงามในระบอบประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ตาม ซึ่งประชาชนเหล่านั้นสามารถอยู่ร่วมกันได้ภายใต้กฎหมายเดียวกัน มิได้สร้างความขัดแย้งหรือก่อให้เกิดความรุนแรงขึ้นในสังคมไทย เพราะเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตนั้นเป็นของประชาชนคนไทยทุกคน
นรินท์พงศ์ จินาภักดิ์
นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย
14 ตุลาคม 2565