อันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำของพันธมิตรความหวัง ที่ประกอบด้วย 3 พรรคการเมือง แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เขายังคงมีความคาดหวังในแง่บวกอย่างมากต่อผลการเลือกตั้ง เพราะประชาชนมีความตระหนักสูงมากต่อการทุจริตของรัฐบาล และความล้มเหลวในการกระตุ้นเศรษฐกิจและการพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชขน และ “เรามั่นใจ เราต้องทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายการครองเสียงข้างมากเกินกึ่งหนึ่ง”
เขาบอกด้วยว่า จากสิ่งที่สังเกตเห็นตอนไปเยือน 4-5 รัฐในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มีความชัดเจนว่า เสียงสนับสนุนเปลี่ยนไป และการเปลี่ยนแปลงเริ่มขึ้นแล้ว
นายกรัฐมนตรี อิสมาอิล ซาบรี ยาคอบ จากพรรคอัมโน ประกาศยุบสภาเมื่อวันจันทร์ เพื่อจัดเลือกตั้งก่อนกำหนด แม้คาดว่าอาจเกิดน้ำท่วมใหญ่ในเดือนหน้าในช่วงสิ้นสุดฤดูมรสุม ขณะที่พรรคอัมโนมีความขัดแย้งกับพันธมิตรในรัฐบาล และเชื่อว่า จะสามารถกวาดเสียงข้างมากเด็ดขาดด้วยตัวเองได้ หลังจากได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งซ่อมเมื่อเร็ว ๆ นี้
ก่อนหน้านี้พันธมิตรความหวังของอันวาร์ สามารถคว้าชัยชนะอย่างพลิกความคาดหมายในการเลือกตั้งเมื่อปี 2561 ด้วยการจับมือกับอดีตนายกรัฐมนตรีมหาธีร์ โมฮัมหมัด ในช่วงที่ประชาชนกำลังมีกระแสโกรธแค้นต่อการคอร์รัปชันในรัฐบาล ชัยชนะครั้งนั้นทำให้มหาธีร์ได้เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 และสร้างสถิติเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุมากที่สุดในโลกด้วยวัย 92 ปี แต่รัฐบาลล่มภายในเวลาไม่ถึง 2 ปีเนื่องจากการแย่งชิงอำนาจภายในพรรคพันธมิตร
ปัจจุบันพันธมิตรความหวังครองที่นั่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 90 ที่นั่งจาก 222 ที่นั่ง จึงเป็นคู่แข่งสำคัญของรัฐบาล แต่นักวิเคราะห์มองว่า ต้องอาศัยความร่วมมือกับพรรคเล็กกว่าในซีกฝ่ายค้านเพื่อให้มั่นใจว่าฐานเสียงไม่แตก
คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดประชุมในวันที่ 20 ต.ค. เพื่อกำหนดวันเลือกตั้ง ซึ่งจะต้องจัดภายใน 60 วันหลังการยุบสภา