svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

สอท. ตั้งคกก.สอบคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตุ๋นหมอชุมพร สูญเงิน 100 ล้าน

11 ตุลาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผบช.สอท. ตั้ง คกก.ร่วมสอบ คดีหมอชุมพร ถูกหลอกโอนเงินกว่า 100 ล้านบาท พบบัญชีม้า 60 ราย เร่งประสาน บช.ภ.8 ขอสำนวนวิธีข่มขู่-ความรักแม่ที่มีต่อลูก ชี้ระบบการโอนเงินง่ายเกินไป ตร.เตรียมประสาน 21 ธนาคาร ปรับยอดเงินต้องสงสัยเหลือเพียงหลักแสน

พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณี น.ส.บี (นามสมมุติ) อดีตแพทย์อายุรกรรม และอดีต ผอ.ศูนย์แพทย์ศาสตร์ศึกษา ใน โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่จ.ชุมพร ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงิน เสียหายกว่า 100 ล้าน ซึ่งทาง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ความสนใจในเรื่องนี้อย่างมาก เพราะเป็นการหลอกลวงให้มีการโอนเงินเป็นจำนวนที่มาก 

 

โดยได้มอบหมายให้ บช.สอท.เข้าไปร่วมดำเนินการสืบสวนสอบสวนด้วย ซึ่งมีความคืบหน้าไปพอสมควร จนทราบตัวผู้ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเส้นทางการเงิน และผู้ที่เปิดบัญชีม้า ในกระบวนการแล้ว 50-60 ราย ตอนนี้กำลังประสานตำรวจภูธรภาค 8 ส่งสำนวนการสอบสวน ผู้เสียหาย และผู้ที่เกี่ยวข้องให้กับ บช.สอท. จากนั้นทาง บก.สอท.4 จะตั้งคณะกรรมดูแลคดีนี้ทั้งหมด ส่วน บก.สอท.5 จะทำหน้าที่ให้การสืบสวน สอบสวน ขยายผลต่อไป

ส่วนวิธีการหลอกลวงนั้น ยังคงใช้ลูกไม้เดิมๆ คือหลอกว่ามีการส่งพัสดุผิดกฎหมาย เมื่อคุณหมอทราบเรื่อง ก็โทรปรึกษาผู้เป็นแม่ จนสุดท้ายลหลงเชื่อ และมีการโอนเงินจำนวนดังกล่าว ซึ่งคดีนี้ผู้ก่อเหตุใช้วิธีข่มขู่ และอาศัยความรักของแม่ที่มีต่อลูก ส่วนลูกเองก็กลัวว่าตัวเองจะไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด แถมกระบวนการนี้ยังมีการสวมรอยเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหลายระดับ เพื่อเพิ่มความหน้าเชื่อถือ

ทั้งนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงในคดีนี้ คือ ผู้เสียหายทุกคนก็ต้องการได้เงินคืน ประกอบกับกระบวนการโอนเงินง่ายมาก ดังนั้นก่อนจะโอนเงินควรตรวจสอบตัวบุคคลให้ชัดเจนก่อน นอกจากนี้ในยุคปัจจุบันนอกจากการโอนเงินปกติแล้ว ยังมีการโอนเงินในลักษณะสกุลเงินเหรียญดิจิตอล ทำให้การตามเงินคืนค่อนข้างยาก 

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อก่อนการโอนเงินออก ที่มีลักษณะผิดสังเกตุคือการโอนเงินจำนวน 2 ล้านขึ้นไป แต่ตอนนี้ทาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ประสานไปยังเครือข่ายธนาคาร 21 ธนาคาร เพื่อปรับการเฝ้าระวังยอดเงินที่ต้องสงสัย เหลือเพียงหลักแสนเท่านั้น ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ

นอกจากนี้ อยากเตือนกับประชาชนทั่วไปว่าเจ้าหน้าที่รัฐจะไม่มีใช้สื่อโซเชียล หรือ โทรศัพท์ ในการประสานงานอย่างแน่นอน ทุกกระบวนการต้องเป็นการทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น

logoline