svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

สอท.เด็ดปีกมังกร 'คอลเซ็นเตอร์" ส่งหมายจับปลอมเสียหายกว่า 200 ล้าน

11 ตุลาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตำรวจ สอท.เปิดยุทธการ "เด็ดปีกมังกร" รวบ 3 ผู้ต้องหา ร่วมในเครือข่าย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ สัญชาติ จีน-ไต้หวัน อ้างเป็น จนท.รัฐส่งหมายจับปลอมเรียกทรัพย์สูญรวมกว่า 200 ล้าน

วันที่ 11 ตุลาคม 2565 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.ฐายุฎฐ์ จันทร์ถาวร พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผบก.สอท.4 นำกำลังบก.สอท.4 เปิดยุทธการ “ เด็ดปีกมังกร ” ทลายเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ (Call Center)

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา บช.สอท.ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์(www.thaipoliceonline.com) ว่าถูกคนร้ายอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ออกอุบายลวงว่า ผู้เสียหายมีส่วนร่วมในการกระทำผิดอาญาและส่งหมายจับปลอมของหน่วยงานราชการที่คนร้ายทำการปลอมแปลงให้ผู้เสียหายดู กระทั่งผู้เสียหายหลงเชื่อคนร้ายก็ได้สั่งให้ผู้เสียหายโอนเงินกว่า 6,976,094.87 บาท ไปยังบัญชีที่คนร้ายเตรียมไว้ โดยให้เหตุผลว่าต้องตรวจสอบเงินจำนวนดังกล่าวว่าได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ จากนั้นก็ขาดการติดต่อไป

 

ภายหลังพนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.4 ได้สืบสวนสอบสวนจนทราบถึงที่ตั้งของขบวนการดังกล่าว จึง

รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้นของศาลอาญา เข้าตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยว่าเป็นที่พักอาศัยและใช้ในการกระทำความผิด โดยจับกุมผู้ต้องหา สัญชาติจีน-ไต้หวัน ได้ 2 ราย  และสัญชาติจีน 1 ราย ทำหน้าที่เป็นผู้ถือบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) ในการทำธุรกรรมทั้ง 2 จุด พบของกลางโทรศัพท์เคลื่อนที่พร้อมซิมการ์ด จำนวน 39 เครื่อง, คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก, สมุดบัญชีธนาคารพร้อมบัตรเอทีเอ็ม, หนังสือเดินทางและของกลางรายการอื่นๆ อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบยังพบว่ามีการลงทะเบียนผูกกับบัญชีธนาคารของบุคคลอื่น (บัญชีม้า) ติดตั้งอยู่ภายในโทรศัพท์ รวมทั้งสิ้น 13 บัญชี และอื่นๆ รวม 61 ราย 

ผู้ต้องหาให้การว่าบัญชีธนาคารอิเล็กทรอนิกส์ที่ตรวจพบมีไว้สำหรับใช้ในการหลอกลวงประชาชนให้โอนเงินมาที่บัญชีดังกล่าว และยังพบว่าบัญชีเหล่านี้มีความเชื่อมโยงและเกี่ยวข้องในคดีคอลเซ็นเตอร์อีกหลายคดี

 

จากการตรวจสอบคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กพบข้อมูลที่มีไว้เพื่อใช้หลอกลวงผู้เสียหายภายในโปรแกรมพบ หมายเรียกหมายจับ หมายคดีฟอกเงินของ ปปง.,หมายจับของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) ที่ถูกปลอมแปลงขึ้นมา และยังตรวจพบเว็ปไซต์หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่างๆที่มีการปลอมแปลงขึ้นเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กลุ่มคนร้าย อย่างไรก็ตามจากการขยายผลสามารถจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มได้ 16 ราย แบ่งเป็นกลุ่มรับจ้างเปิดบัญชีม้า จำนวน 8 ราย,กลุ่มรวบรวมบัญชีม้าเพื่อส่งต่อให้กับนายทุนชาวจีน จำนวน 1 ราย และกลุ่มทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลผู้เสียหาย เพื่อนำมาใช้ในการหลอกลวง 2 ราย ซึ่งเบื้องต้นพบความเสียหายทั้งสิ้นกว่า 200 ล้านบาท

logoline