svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ศาลสั่งจำคุก แกนนำนปช. 1 ปี ปรับ 12,000 บาท นำม็อบ ปิดสภาฯ สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์

06 ตุลาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ศาลอาญาสั่งจำคุก "พ.ต.ต.เสงี่ยม" แกนนำนปช. 1 ปี ปรับ 12,000 บาท นำม็อบ ปิดล้อมขัดขวางประชุมสภาฯ สมัยรัฐบาล "อภิสิทธิ์" แต่ให้การรับสารภาพลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 8 เดือน ปรับ 8,000 บาท ระบุ โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี

6 ตุลาคม 2565 ที่ศาลอาญา ถ รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีชุมนุมปิดสภาผู้แทนราษฎร หมายเลขดำอ.887/63 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง พ.ต.ต เสงี่ยม สำราญรัตน์  อายุ 69 ปี ชาวจ.ชุมพร แกนนำกลุ่ม นปช.เป็นจำเลยในความผิดร่วมกันชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง, ทำร้ายร่างกาย, หน่วงเหนี่ยวกักขัง , ทำให้เสียทรัพย์และอื่นๆ

 

ศาลสั่งจำคุก “พ.ต.ต.เสงี่ยม” 1 ปี ปรับ 12,000 บาท นำม็อบ นปช.ปิดสภา

 

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่  7 เม.ย. 53 จำเลยกับพวกอีกหลายคนที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ซึ่งเป็นแกนนำผู้ชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาชนประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)หรือกลุ่มคนเสื้อแดงหลายพันคน โดยจำเลยนำกลุ่มผู้ชุมนุมหลายร้อยคนขย่มทำลายประตูรั้วอาคารรัฐสภาเพื่อขัดขวางปิดทางเข้าออกเพื่อมิให้รัฐมนตรี และ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เข้าประชุมรัฐสภา ทำให้ทรัพย์สินเสียหายประมาณ 6 พันบาท  หลังจากนั้นจำเลยกับพวกได้ขับรถยนต์ติดตั้งเครื่องขยายเสียงสำหรับใช้ปราศรัยปลุกระดมผู้ร่วมชุมนุม เป็นเหตุให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีอีกหลายคน ในขณะนั้น รวมทั้งสส.ต้องติดอยู่ภายในอาคาร และต้องหลบซ่อนตัวไม่สามารถหลบหนีออกมาได้

นอกจากนี้จำเลยกับพวกยังใช้กำลังประทุษร้ายตำรวจ และรปภ.ที่ดูแลอาคารได้รับบาดเจ็บหลายนาย รวมทั้งแย่งอาวุธปืนขนาด 11 มม. และปืนเอ็ม 16  ของเจ้าหน้าที่ไปโดยทุจริต โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย

 

ศาลอาญาพิเคราะห์แล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานร่วมกันบุกรุกให้ลงโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 12,000 บาท แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ลดโทษหนึ่งในสามเหลือ จำคุก 8 เดือน ปรับ 8,000 บาท  จำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน อีกทั้งยังบรรเทาผลร้ายด้วยการนำอาวุธปืนไปคืนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ไม่เกิดความรุนแรงมากกว่าเดิม เห็นควรให้โทษจำคุก รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี คำขออื่นให้ยก

 

ศาลสั่งจำคุก “พ.ต.ต.เสงี่ยม” 1 ปี ปรับ 12,000 บาท นำม็อบ นปช.ปิดสภา

ภายหลังฟังคำพิพากษา พ.ต.ต.เสงี่ยม กล่าวว่า รู้สึกพึงพอใจผลคำพิพากษาที่ศาลให้ความยุติธรรม เนื่องจากการชุมนุมในครั้งนั้นเป็นการชุมนุมตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนเองเป็นเพียงแค่ผู้ร่วมชุมนุมไม่ได้เป็นแกนนำ แต่กลุ่มมวลชนไปพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจพกพาอาวุธสงครามอยู่ในรัฐสภา กลุ่มมวลชนจึงได้ไปยึดอาวุธมา ตนจึงรีบไปขออาวุธดังกล่าวมาเก็บไว้ เพราะมวลชนไม่มีความรู้เรื่องการใช้อาวุธ เกรงจะเกิดปืนลั่นอาจจะไม่ปลอดภัย หลังจากเกิดเหตุดังกล่าวตนเองมีเจตนาดี ได้ติดต่อตำรวจนำอาวุธปืนทั้ง 2 กระบอก ไปคืนให้ทันทีหลังจากเกิดเหตุ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงตามมา

 

ด้านนายกฤษณ์ ขำทวี ทนายความ เปิดเผยว่า ศาลเห็นว่าจำเลยมีความผิดในข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการ แม้ว่าในขณะเกิดเหตุกลุ่มผู้ชุมนุมได้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่เข้าไปในรัฐสภาก็ตาม แต่ศาลมองว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการนำมวลชนไปกดดันเพื่อที่จะเข้าไปในรัฐสภา เจ้าหน้าที่จึงอนุญาตเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง จึงพิพากษาให้ลงโทษในความผิดดังกล่าวเพียงข้อหาเดียว ส่วนข้อหาอื่นยกฟ้อง

logoline