"อัจฉริยะ" พร้อมพวก รับทราบข้อหาคดีหมิ่นประมาท ผลชันสูตรร่าง "แตงโม นิดา"

วันนี้ (5 ต.ค.) ที่ สภ.เมืองนนทบุรี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วยนายวัชรไกรศร เกตุจรัส อายุ 42 ปี ผู้เชี่ยวชาญแสงและเงา และนายจิตติพงษ์ โพธิ์พึ่ง อายุ 33 ปี เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สมุทร์ เกตุยา รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี หลังถูกพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกให้ทั้งสามคน เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

หลังจากที่ ถูก พ.ต.อ.หญิง ณปภัช ณัฏฐสมุน นายแพทย์ (สบ 5) หัวหน้ากลุ่มงานนิติพยาธิ สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ แจ้งความดำเนินคดีกรณีที่ นายอัจฉริยะ กับพวก ร่วมกันแถลงข่าวหมิ่นประมาณ เรื่องการผ่าชันสูตรร่างของดาราสาว "แตงโม นิดา" ที่โรงแรมนนทบุรีพาเลซ ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 65 
 

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า การมารับทราบข้อกล่าวหา ตามหมายเรียกของตำรวจ เป็นไปตามที่ตนคิดและเป้าหมายของตน ที่ขุดบ่อล่อปลาไว้ เพื่อต้องการเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในคดี "แตงโม นิดา" ซึ่งจะทำให้ตนได้มีสิทธิ์ เข้าไปดูสำนวนได้โดยชอบตามกฏหมาย เพราะที่ผ่านมาสำนวนคดี "แตงโม" ยังไม่มีใครเคยเห็น วันนี้ตนและพวก จึงได้เดินทางเข้ามอบตัว แต่จะไม่ให้การใด ๆ ทั้งสิ้น ให้ไปว่ากันในชั้นศาล ที่ตนคิดว่า คดีแตงโม จะกลับมามีซีซั่นที่ 2 เป็นเกมส์ระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือตำรวจคนไหน ที่ทุจริตต่อหน้าที่ หลังจากได้ดูสำนวนคดีแล้ว ตนสามารถนำรายชื่อออกมาดำเนินการตามกฏหมายต่อไป

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า  การออกหมายเรียกในคดีนี้ มีการออกหมายเรียกผิดคน คือนำคนที่ไม่เกี่ยวข้อง มารับทราบข้อกล่าวหา เป็นการชี้ผิดตัวผิดคน หลังรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ตนจะฟ้องกลับ ทั้งพนักงานสอบสวนที่ออกหมายเรียก และตัวคุณหมอที่มาแจ้งความดำเนินคดี ทั้งนี้ตนพร้อมที่จะเป็นผู้ต้องหาอยู่แล้ว  ตั้งแต่หลังจากคุณแม่แตงโมถอนตนออกจากคดีนี้ 
 

นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า คดี แตงโม ถือเป็นคดีอัปยศของประเทศไทย และหลังจากที่ตน ถูกถอนออกจากคดี ทำให้ไม่สามารถเข้าไปดูพยานหลักฐานใดได้ แต่มันมีคดีที่ทางตนฟ้องร้องตำรวจอยู่ แต่ถูกดองมา 8 เดือนแล้ว ไม่มีการทำอะไรทั้งสิ้น หลังจากนี้จะได้เข้าไปอยู่ในคดีนี้ คดีก็กลายเป็นเกมส์ยาว ตนจะนำคดีแตงโม ออกมาชำแหละอีกครั้ง เป็นซีรีย์ภาค 2 เพราะคดีนี้ยังมีการทำหลักฐานโดยทุจริต และทำหลักฐานเท็จตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตนมีหลักฐานในมือเยอะมากเกี่ยวกับความจริงทั้งหมด

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า เมื่อตนได้เข้าไปอยู่ในสำนวนคดีแล้ว จะดำนินการทางศาล เพื่อดูหลักฐานและพยานทั้งหมด โดยจะมีทีมคุณหมอที่เข้ามาช่วยดูคดีนี้ต่อ คือ คุณหมอธวัชชัย คุณหมอพรทิพย์ และคุณหมอจากกระทรวงยุติธรรม โดยได้เตรียมการไว้หมดแล้ว ที่จะยื่นฟ้องผู้ต้องหา 5 คนบนเรืออีกครั้ง ตนอยากทราบว่า พยานทั้ง 5 คนให้การแบบไหน ทำไมคดีนี้ผู้ต้องหาถึงถูกแจ้งแค่เพียงข้อหาประมาท ทั้ง 5 คนบนเรือเท่านั้น โดยตนจะรื้อทั้งระบบออกมาอีกครั้ง คดีนี้เป็นเกมส์ยาว ตำรวจในคดีแม้กระทั่งระดับนายพลตนก็พร้อมชน 

ส่วนทางด้านคุณแม่ที่ถอนฟ้องไม่ร่วมเป็นโจทย์ในคดี นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ตนมองว่าเป็นสิทธิ์ของเขา เขาคิดว่าเงิน 2 ล้านที่ได้ไป ซื้อชีวิตลูกได้ก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่สำหรับพวกตน น้องแตงโม ไม่ได้มีค่าแค่ 2 ล้าน น้องแตงโมต้องได้รับความยุติธรรมเสียก่อน การเงินเยียวยามันได้อยู่แล้วตามมาตรา 40/1 หรือสิทธิ์เรียกร้องทางแพ่ง การที่คุณแม่ได้เงินไปแล้วพูดว่าไม่ติดใจ ไม่เรียกร้องใดๆ ตนคิดว่าแม่ไม่สมควรพูด คนเป็นแม่ต้องเรียกร้องความยุติธรรมให้ลูกสาวตัวเองก่อน

ภายหลัง นายอัจฉริยะ พร้อมพวก เข้ารับทราบข้อกล่าวแล้ว มีกลุ่มแฟนคลับเอฟซีคดีแตงโม กลุ่มนิชาพาเพลินเดินทางมาให้กำลังใจนายอัจฉริยะ พร้อมกับนำหุ่นจำลองของดาราสาว รวมทั้งรูปภาพ ใบแจ้งการตาย และใบพัดเรือจำลองมาจำลองเหตุการณ์และข้อสงสัยเรื่องบาดแผลจากใบพัดเรือ รวมทั้งนำกล่องของขวัญซึ่งภายในจัดเตรียมมาด้วยโทรศัพท์มือถือ ตุ้มหู แบงค์กงเต็ก รถยนต์แบบกงเต็ก มามอบให้นายอัจฉริยะ เปิดดู เพื่อประชดที่แม่แตงโม ถอดนายอัจฉริยะออกจากการทำคดี และยอมรับเงินชดเชยจากกลุ่มผู้ต้องหา เพื่อแลกกับการถอนฟ้องคดี ทั้งแพ่งและอาญา