"สุชาติ"ปัดตอบ"บิ๊กแป๊ะ"เหมาะแคนดิเดตพปชร.ย้ำรอตกผลึกในพรรคก่อน

5 ตุลาคม 2565 "นายสุชาติ ชมกลิ่น" รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณี ส.ส. ของพรรคพบางส่วนที่นายสุชาติดูแลอยู่เดินทางไปร่วมงานวันเกิด "นายเนวิน ชิดชอบ" ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่จ.บุรีรัมย์ จะเป็นการส่งสัญญาณจะย้ายไปพรรคภูมิใจไทยหรือไม่นั้น ซึ่งวานนี้ (4ต.ค.) เป็นงานวันเกิด และในทางการเมืองสามารถไปได้ ตนก็เคยไปร่วมงานวันเกิด "นายวัน อยู่บำรุง" ส.ส.กรุงเทพ พรรคเพื่อไทย

ทั้งนี้ แต่ความชัดเจนว่าใครจะอยู่ตรงไหน หรือไปอย่างไรต่อ อีกสักพักทุกคนจะได้ทราบ แต่วันนี้ (5ต.ค.) ยังอยู่พลังประชารัฐ และในส่วนของ ส.ส.จังหวัดที่ไปก็เป็นเพื่อน แต่บางครั้งจะไปบังคับเส้นทางเดินชีวิตของแต่ละคนไม่ได้ เพราะการมาเป็นนักการเมือง มาเป็นส.ส. ต่างก็มีอุดมการณ์ของตัวเอง ตนในฐานะส.ส.และรัฐมนตรี ก็มีอุดมการณ์ของตัวเองเช่นกัน ซึ่งในส่วนนี้ต้องปล่อยให้เป็นเอกสิทธิ์ส่วนตัว

"การไปแสดงความยินดีเป็นเรื่องปกติ หลายคนที่ไปคงไม่ใช่ประเด็นการเมือง และ เรื่องนี้เมื่อมีการพูดคุยทุกคนก็ยังยืนยันว่ายังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ แต่ในอนาคตที่จะมีการเลือกตั้ง และในช่วงเดือนมี.ค. 66 ที่จะครบวาระ 4 ปีของรัฐบาล ช่วงนั้นเราจึงจะได้เห็นว่าใครพร้อมที่จะเดินไปด้วยกัน หรือใครที่มีแนวคิด แนวทางที่จะไปตรงนั้นถือเป็นเอกสิทธิ์" นายสุชาติ กล่าว 

ส่วน ส.ส.ที่ไปร่วมมี 8 คน เกี่ยวข้องกับกระแสของพรรคหรือไม่ ที่ทำให้ส.ส.ไหลออก นายสุชาติ กล่าวว่า มุมมองของแต่ละคนไม่เหมือนกัน กระแสพรรคที่ทุกคนคิดว่าไม่ดี ตนมองว่าอาจเป็นการคิดเอง เออเอง  หรืออาจติดตามจากบางสื่อที่ตรงข้ามกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ แต่หากติดตามการทำงานของพรรค  หัวหน้าพรรคที่ทำงานทางการเมือง มองว่าประชาชนได้เห็นภาพสะท้อนกลับ ว่าพรรคพลังประชารัฐได้ทำหลายอย่าง

อย่างไรก็ตาม เช่น ตนที่เป็น รมว.แรงงาน ในโควตาพรรคพลังประชารัฐ สิ่งที่ตนเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม. มีแต่เรื่องสำคัญ ทั้งพ.ร.บ.แรงงานนอกระบบ ซึ่งเคยมีใครทำบ้าง หากไม่ใช่ตนที่ทำในนามพรรคพลังประชารัฐ ดังนั้น วันนี้จะบอกว่าพรรคพลังประชารัฐกระแสไม่ดี หรือไม่ทำอะไร หากจะให้ตนบอกสื่อมวลชนใช้เวลาหนึ่งวัน คงบอกไม่หมดว่าทำอะไรไปบ้าง

ขณะเดียวกัน ตอนนี้การเมืองเป็นช่วงนับถอยหลัง มีออก ก็ต้องมีเข้า เช่นเดียวกับพรรคอื่น ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ซึ่งคนที่เป็น ส.ส. ไม่ว่าจะออกหรือเข้า ใช่ว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้า จะกลับมา 500 คนเท่าเดิม การเมืองมีคนใหม่เข้ามา และคนเก่าที่ไม่ผ่านการรับเลือก ถือเป็นเรื่องปกติ อยู่ที่ความนิยมและการเป็น ส.ส. ว่าได้มีการปฏิบัติตัวต่อประชาชนในพื้นที่อย่างไรบ้าง 

ส่วนกรณี "นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว" ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้แสดงความยินดีกรณีพรรคพลังประชารัฐ จะเสนอหัวหน้าพรรคเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีนั้น ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกันในส่วนของพรรค จะคิดส่วนตัวไม่ได้ และตนมองว่าสิ่งที่ นพ.ชลน่าน พูด กับกรณีที่พรรคเพื่อไทยอาจจะเสนอนายนพ.ชลน่าน เป็นแคนดิเดตนายกฯ ก็ได้ เนื่องจากเป็นหัวหน้าพรรค ดังนั้น ต้องถามกลับไปว่าพรรคเพื่อไทยจะเสนอ นพ.ชลน่าน หรือไม่

"หากพรรพลังประชารัฐเสนอ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ เพื่อไทยก็น่าจะเสนอ นพ.ชลน่าน หากเป็นการคิดในตรรกะเดียวกัน แต่หากทุกอย่างไม่ได้อยู่บนตรรกะเดียวกัน ก็ต้องอยู่กับที่ประชุม อยู่ที่ความลงตัวและช่วงเวลานั้นๆ" รมว.แรงงาน ระบุ 

ส่วนจะมีการส่งแคนดิเดตนายกฯ 3 คนหรือไม่นั้น ส่วนตัวไม่มีสิทธิ์หรืออำนาจตัดสินใจ แต่ยืนยันว่าไม่มีรอยร้าวเกิดขึ้นในพรรคพลังประชารัฐ  เพราะทั้งพล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่หนักมาก และวานนี้พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้พูดว่าเป็นห่วงพล.อ.ประวิตร เพราะลงพื้นที่ติดต่อกันหลายวัน ดังนั้น จึงต้องให้กำลังใจทั้งสองท่าน

เมื่อถามย้ำว่า แกนนำพรรคพลังประชารัฐมองว่าแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคควรมีมากกว่า 1 คนหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า วันนี้สื่อหรือนักกฎหมายตีความว่าพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ได้ถึงปี 2568 จึงเป็นเรื่องปกติที่ต้องเสนอคนที่ 2 และ 3 เผื่อไว้ แต่จะออกมาพูดว่าส่งใครเป็นที่ 2 ที่ 3 ตอนนี้คงไม่ได้ ต้องมีการพูดคุยและออกเป็นมติพรรค

สำหรับบทบาท "พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา" อดีต ผบ.ตร. ในพรรคพลังประชารัฐขณะนี้ นายสุชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ เข้ามาช่วยในส่วนที่พรรคยังไม่แข็งแรงในโซนอีสาน แต่ในส่วนอื่นไม่ได้เข้ามาเกี่ยว เพราะภาคใคร ภาคมัน ส่วนจะไปถึงขั้นเป็นหนึ่งในแคนดิเดตของพรรคหรือไม่ ตนยังพูดไม่ได้เพราะเป็นเรื่องที่ต้องลงมติ หากพูดไปจะเสียมารยาท เพราะเป็นแค่คนคนเดียวและในพรรคยังไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้ 

"ส่วนการพูดคุยกับส.ส. ผมยอมรับว่ามีความสนิทสนมในโซนภาคกลาง ภาคตะวันออก และตะวันตก เพราะเป็นเพื่อนที่คบกันมา ก็มีการพูดคุยกันในวันที่พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งทุกคนดีใจเพราะเป็นนายกฯ ที่พรรคพลังประชารัฐเสนอ และกลับมาโดยใสสะอาด และเป็นเอกฉันท์ทุกอย่าง และทำให้มีพลังให้เราเดินต่อไปได้" นายสุชาติ กล่าว