svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

นักวิชาการชี้ โควิดไทย 3 เดือนข้างหน้าเป็นยังไง หากเทียบกับโรคประจำถิ่นใน ตปท.

03 ตุลาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“สันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง” เผยมุมมอง โควิดในไทยอีก 3 เดือนข้างหน้าเป็นยังไง เทียบกับโรคประจำถิ่นใน ตปท. ชี้ สงครามจะไม่เคยมีวันจบ

นายสันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง โพสข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Sunt Srianthumrong เกี่ยวกับประเด็นว่าด้วย บทส่งท้ายแห่งโควิด-19

.. 

 

Covid-19: Final Chapter ปัจฉิมบท "นับจากนี้ไปจนนิรันดร์"

 

ขอแสดงความระลึกถึงเพื่อนร่วมชาติ หลายหมื่นชีวิตที่ต้องสูญเสียไป และไม่มีโอกาสได้อยู่ร่วมกับพวกเราจนถึงวันนี้ และขอแสดงความห่วงใยอีกหลายชีวิต และหลายครอบครัว ที่จะยังคงต้องสูญเสียจากนี้ต่อไป แม้สถานการณ์จะดีขึ้นมากแล้ว แต่ความสูญเสียจะยังคงเกิดขึ้นและยากที่จะหลีกเลี่ยง ขอให้ดูแลตัวเองกันต่อไป 

 

สงครามจะไม่เคยมีวันจบ

เพียงแต่พวกเราเข้มแข็งมากขึ้น ไวรัสอ่อนแอลง และเราจะต้องอยู่ร่วมกับมันต่อไปให้ได้ ใช้ชีวิตเดินหน้าต่อไป ฟื้นฟูชีวิต ธุรกิจ และประเทศชาติให้กลับมายืนในจุดที่เคยเป็น หรือดีกว่าที่เคยเป็น

ผู้คนที่จากไปจะถูกจดจำทั้งในฐานะ เพื่อน พี่น้อง ปู่ย่า ตายาย พ่อแม่ ลุงป้า น้าอา ลูกหลาน ช่วงเวลาเกือบ 3 ปีที่ผ่านมาคงแทบไม่มีใครเลยที่ไม่ได้สูญเสียคนที่ตัวเองรู้จัก มีความสูญเสียเกิดขึ้นมากมายและบางคนก็เป็นเพียงเด็กตัวเล็กๆ เท่านั้น พวกเขาสมควรที่จะถูกจดจำ

 

ข่าวดี มองประเทศไทยไปข้างหน้าอีก 3 เดือน เทียบกับ Endemic ในตปท.:

 

  • Endemic แบบ USA UK France Germany Spain Italy Australia มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 72 คนต่อประชากร 70 ล้าน และเขาถือว่าจบแล้ว ถอดหน้ากากแล้ว ไม่สนอะไรแล้ว
  • Endemic แบบประเทศไทยตอนนี้ ผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละน้อยกว่า 10 คน และยังน้อยลงเรื่อยๆ โดยที่เราก็กลับมาใช้ชีวิตแทบจะปกติแล้ว เราอยู่ในจุดที่ดีมากเมื่อเทียบกับที่อื่นๆบนโลก สิ่งที่เราต่างกับเขาคือการใส่หน้ากาก 
  •  
  • ถ้าคนยังใส่หน้ากากต่อไป ดูแลสุขอนามัย หมั่นตรวจ ATK  กราฟอาจจะสามารถเป็นขาลงต่อไปได้เรื่อยๆ และถ้าโชคดีก็จะลงไปต่ำมากๆแบบที่ไม่เคยมีประเทศใดบนโลกที่มีเศรษฐกิจแบบเปิดทำได้มากก่อน
  • เดือนตุลาคมยังคงเป็นขาลงต่อไป แต่หลังจากนั้น เปิดเทอม หน้าหนาว เวฟเล็กๆคงมีเกิดขึ้นแน่นอน เหมือนยุโรปตอนนี้ แต่จะไม่กระทบกับการใช้ชีวิตและระบบสาธารณสุขอีกต่อไป
  • ถ้ากราฟยังลงต่อได้แบบ Best Case Scenario ช่วงปลายต.ค.ผู้เสียชีวิตอาจต่ำกว่า 5 คนต่อวัน ซึ่งดีกว่ายุโรปเป็น 10 เท่า 
  • ข้อ 5 มีโอกาสเกิดขึ้นได้เพราะพวกเราส่วนใหญ่ยังใส่หน้ากาก ฉีดวัคซีนกันไปแล้วจำนวนมาก รวมถึงมีภูมิคุ้มกันแบบผสมผสานจากการติดเชื้อจริงมากกว่าครึ่งประเทศ 
  • ความสำคัญของการใส่หน้ากากแม้จะ Endemic แล้วก็คือ เราสามารถรักษาชีวิตผู้คนได้ถึงปีละมากกว่า 20,000 คน ทุกปีจากนี้ไป ดังนั้นสำหรับคนรักสุขภาพ ถ้าทำได้  ใส่หน้ากากให้เป็นนิสัย ถอดเมื่อจำเป็น แล้วจะดีกับตัวเอง ครอบครัว และประเทศชาติด้วย

///

 

สุดท้ายนี้: 

 

ขอแสดงความระลึกถึงอย่างที่สุดอีกครั้งต่อเพื่อนร่วมชาติหลายหมื่นชีวิตที่ต้องสูญเสียไป 

 

Covid-19 เป็นหนึ่งในวิกฤตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งศตวรรษ พวกเราคนที่รอดมาได้และได้ไปต่อนั้นถือว่าโชคดีมากกว่าหลายๆคน  ขอให้ใช้ชีวิตต่อไปให้ดี สมกับที่ได้รับโอกาสนั้น และช่วยกันทำให้โลกนี้กลับมาดีขึ้นสำหรับทุกคนและทุกชีวิต ยังมีเรื่องสำคัญอีกมากรอให้ทุกคนช่วยกันทำให้สำเร็จในศตวรรษนี้ 

 

พบกันใหม่ในอีก 100 ปีข้างหน้า การระบาดใหญ่จะกลับมาเสมอ เรื่องราวการต่อสู้ของพวกเราจะถูกบันทึกและเรียนรู้โดยคนรุ่นหลัง ลูกหลานของเราจะยังคงใช้ชีวิตและต่อสู่ต่อไปอีกนับครั้งไม่ถ้วน ตราบเท่าที่มนุษย์และไวรัสยังคงใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ แต่ไม่แน่นะ

 

เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ อาจจะเป็นพวกเราเองในอีกชีวิตหนึ่งที่กลับมาต่อสู่ร่วมกันอีกครั้ง ซึ่งอาจจะจำกันได้หรือจำไม่ได้ ถ้าใช่และจำกันได้ ก็ทักทายกันได้เสมอ ไม่ว่าจะในอีก 100 ปี 200 ปี 1,000 ปี หรือยาวนานกว่านั้น นับจากนี้ไปจนนิรันดร์

 

 

 

logoline