อ่างทอง - 2 ตุลาคม 2565 หลังจากหลังจากพายุโนรูผ่านพ้นไป แต่น้ำเหนือยังคงมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ชาวอ่างทองพยายามต่อสู่กับระดับน้ำในแม่น้เจ้าพระยาที่เพิ่มสูงอย่างรวดเร็วมานานกว่าหนึ่งเดือนแล้วล่าสุดคันดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาในชุมชนย่อยที่ 10 ใกล้ที่ว่าการอำเภอป่าโมกหลังเก่า ทานแรงดันน้ำไม่ไหวประกอบกัยมีฝนตกลงมาอย่างหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้คันเกิดทรุดตัวพังทลายลง ส่งผลให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาอย่างรวดเร็วกว่า 100 หลังคาเรือน ชาวบ้านต้องเร่งขนย้ายทรัพย์สินและรถยนต์ออกจากบ้าน บางรายขนย้ายออกมาไม่ทันต้องปล่อยให้ถูกน้ำท่วม ซึ่งจุดที่พังเป็นคันดินป้องกันน้ำท่วมของเทศบาลตำบลป่าโมก ห่างจากจุดที่พังเมื่อปี 64 ไม่ถึง 50 เมตร
ขณะที่น้ำยังคงไหลหลากขยายวงกว้างจนล้นข้ามถนนสาย 309 ช่วงตั้งแต่ใกล้สี่แยกไฟแดงป่าโมกจนถึงหน้าที่ว่าการอำเภอหลังใหม่ ซึ่งระดับน้ำสูงและไหลเชี่ยวทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าโมกต้องขอความร่วมมือให้ผู้ใช้รถใช้ความระมัดระวังในการใช้เส้นทาง โดยน้ำที่ไหลหลากข้ามถนนจะลงไปยังพื้นที่ในชุมชนสำเภาลอย ต.โรงช้าง และ ต.บางเสด็จ เจ้าหน้าที่จึงเร่งประกาศเตือนให้ชาวบ้านขนของขึ้นที่สูงด่วน
ล่าสุดเขื่อนเจ้าพระยาที่จังหวัดชัยนาทระบายน้ำอยู่ที่ 2623 ลบ.ม./วินาที น้ำเหนือเขื่อน 17.19 ม.ท้ายเขื่อน 16.09 ม. ทำให้ระดับน้ำที่สถานีชลมาตร C7A หน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง อยู่ที่ 9.28 ม./รทก. น้ำไหลผ่าน 2555 ลบ.ม./วินาที โดยมีรายงานแจ้งว่าน้ำส่งผลกระทบพื้นที่ใน 4 อำเภอของจังหวัดอ่างทองคือ อ.ไชโย อ.เมือง อ.ป่าโมก และ อ.วิเศษชัยชาญ มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 1 พันหลังคาเรือนและยังมีอีกหลายจุดที่นำล้นตลิ่งต่อเนื่อง ซึ่งทางจังหวัดอ่างทองได้เตรียมความพร้อมในการรับมือและแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
(ชมคลิปท้ายข่าว)
จีระนันท์ กลิ่นสุคนธ์ รายงานจากจ.อ่างทอง