ผ่า 7 ฉากทัศน์อนาคตการเมืองไทยหลัง"บิ๊กตู่"ได้ไปต่อ
หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ไปต่อบนเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ส่งผลให้เกิดแรงผลักทั้งฝ่ายค้านรวมถึงภาคมวลชน เริ่มขยับส่งสัญญาณบดขยี้ หวังเกิดการเปลี่ยนผ่าน จึงทำให้ต้องจับตาบริบทการเมืองจากนี้จะมีปรากฏการณ์อย่างไร
โดย "รศ.ดร.เชษฐา ทรัพย์เย็น" นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ให้ความเห็นถึงทิศทางการเมือง ภายหลังศาลให้ พล.อ.ประยุทธ์ ไปต่อ โดยเริ่มนับจากวันที่รัฐธรรมนูญ ประกาศใช้เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2560 ผ่าน 7 ปรากฏการณ์ ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้
1.มวลชนที่ไม่พอใจคำตัดสินศาลจะเริ่มแสดงสัญลักษณ์ประท้วงต่อต้าน แต่ไม่รุนแรงบานปลาย เพราะฝ่ายค้าน มวลชน ย่อมรู้แก่ใจ ที่ศาลให้นับ 6 เม.ย. 60 ถือเป็นการตัดสินตรงกลาง ทำให้การไปต่อของพล.อ.ประยุทธ์ กับนายกฯรอบหน้าริบหรี่ เพราะหาเสียงลำบาก เป็นนายกฯได้อีก 2 ปี ก็จบปี 68 ตามคำตัดสิน เมื่อรู้แก่ใจจึงไม่คิดต่อต้านรุนแรง เพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์แทรกแซง เช่น รัฐประหาร จึงมุ่งสู่การเลือกตั้ง
2.พรรคฝ่ายค้าน จะแสดงท่าทีถึงการยอมรับคำตัดสินศาล ยืนอยู่ในหลักรัฐธรรมนูญ เพราะการตัดสินนี้ ฝ่ายค้านก็ได้ประโยชน์ เพราะหากหาเสียง เช่น พปชร. หรือพรรคอื่นที่หนุน "บิ๊กตู่" แทบเป็นไปไม่ได้ในการปฏิบัติจริง ดังนั้น ฝ่ายค้านไม่สร้างเงื่อนไขปัญหาเลือกตั้ง แต่จะมุ่งหาเสียงเต็มที่ เพื่อแลนด์สไลด์อย่างเพื่อไทย หรือก้าวไกลสะสมให้ได้ส.ส.มากที่สุด เพราะโฉมหน้าการเมืองเปลี่ยนไป
3.โฉมหน้าการเมืองเปลี่ยนไป ซึ่งนัยยะตัดสินศาล จะมีการเปลี่ยนตัวนายกฯ เป็นคนใหม่ ทำให้ประเด็นโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะรักษาอำนาจทำได้ลำบากมาก แต่ก็ทำให้ฝ่ายค้านได้เปรียบ
4.พรรคขั้วรัฐบาลเดิมที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเปลี่ยนหัว ทำการบ้านใหม่ เพื่อดันใครในขั้วมาสานงานต่อ ที่จะถึงในการเลือกตั้ง ทำให้เกิดความยากต่อพรรคที่หนุน "บิ๊กตู่"
5.ภูมิทัศน์การเมือง สับเปลี่ยนพรรคร่วมรัฐบาล เพราะขณะนี้พรรคหลักร่วมกันของฝ่ายรัฐบาล หรือแม้ฝ่ายค้าน จะเปลี่ยนวิธี หรือสลายขั้ว อาจเห็นรัฐบาลจับฝ่ายค้าน ฝ่ายค้านด้วยกันเริ่มแยก เพื่อชิงหาเสียง หลังเลือกตั้ง จะไม่สามารถอยู่ฝั่งเดียวกันได้ เข้าข่ายสุภาษิตที่ว่า "ไม่มีมิตรแท้ หรือศัตรูถาวร"
6.บรรยากาศสังคมคลี่คลาย เดินหน้าเลือกตั้ง ซึ่งคำตัดสินศาล ปิดโอกาสรัฐประหาร เกือบเหลือศูนย์
7. 3ป.เมื่อมีการตัดสินออกมา ทำให้ "ป ประยุทธ์ - ป ป๊อก" เสียรังวัดการเมือง ทำให้ไปลำบาก แต่ "ป ประวิตร" ไปได้ อาจพลาดไม่ได้นั่งนายกฯ เวลาที่เหลือ แต่ว่าทัพการเมืองที่เป็นโมเมนตัม ของ "ป ประยุทธ์" หันมาที่ "ป ประวิตร" ซึ่งเป็นโซ่กลางตั้งรัฐบาล แม้ พปชร. คะแนนอาจไม่มากพอ แต่ "ป ประวิตร" มีสัมพันธ์กับส.ว.จำนวนมาก ในการเลือกนายกฯ จึงทำให้ "ป ประวิตร" เฉิดฉายโดดเด่นมาก