29 กันยายน 2565 "น.ส.วทันยา บุนนาค" สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยภายหลังย้ายร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยเห็นบรรยากาศของสมาชิกพรรคมีความตั้งใจในการทำงาน หลายคนลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย มีการประชุมเตรียมการถึงการเลือกตั้งใหญ่ รวมถึงวันนี้ (29 ก.ย.) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ก็มาร่วมสัมมนาเวิร์คช็อปเรื่องที่เกี่ยวกับโซเชียลมีเดีย ซึ่งถือว่ามีความสำคัญ
ส่วนเรื่องแนวทางหาเสียงตามกรอบ 180 วัน ส่วนตัวมองว่าผู้สมัครเลือกตั้งของพรรค ทุกคนเคารพ รวมถึงศึกษาข้อมูล เพื่อไม่ให้กระทบกฎหมายอยู่แล้ว ซึ่งเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาอะไร และพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง ส่วนที่กังวลใจ คือ ประโยชน์ของประชาชน ที่อาจเสียประโยชน์มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประสบอุทกภัยที่กำลังจะถึงในช่วงสัปดาห์นี้
"ต้องยอมรับว่าการทำงานของภาครัฐเอง อาจจะช่วยเหลือประชาชนไม่ทั่วถึง ซึ่งที่ผ่านมาภาคการเมืองก็คืออีกส่วนสำคัญที่จะช่วยเหลือประชาชน" น.ส.วทันยา กล่าว
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะต้องมีแนวทางข้อกำหนดที่ชัดเจนกว่านี้ เชื่อว่าผู้สมัครทุกคนยินดีจะเคารพกฎหมายเลือกตั้งอย่างแน่นอน ดังนั้น ขอให้ กกต. ไปดูข้อกฎหมายอย่างไรที่ไม่ทำให้ประชาชนเสียประโยชน์ด้วย
น.ส.วทันยา กล่าวด้วยว่า หลังจากได้เข้าพบ "นายชวน หลีกภัย" ประธานรัฐสภา ซึ่งถือเป็นผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายชวน ให้โอวาทให้ตั้งใจทำงาน ซึ่งตนก็ได้รับปากตั้งใจทำงานในฐานะสมาชิกพรรค และหากมีโอกาสได้รับเลือกตั้ง ก็จะทำงานในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้ดีที่สุด
"ส่วนตัวมีความชื่นชมในตัวท่านชวน ตลอดระยะเวลาที่ทำงานในสภา เห็นว่านายชวนในฐานะประธานรัฐสภา ได้เน้นในเรื่องของความสำคัญของกลไกรัฐสภา ว่าจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาบ้านเมืองในอนาคตได้" น.ส.วทันยา กล่าว
สำหรับการทำงานในพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนตัวจะเข้ามาช่วยทำงานในทุกจุด ที่ทางผู้บริหารมองเห็นว่าควรทำสิ่งใดเป็นประโยชน์ให้พรรคได้ คงไม่ได้เลือกว่าจะทำอย่างใดอย่างหนึ่ง "สิ่งใดที่จะเป็นฟันเฟืองเล็กๆได้ ก็ยินดีและพร้อมเสมอ"
ส่วนผลการประเมินของสถาบันพระปกเกล้า พบประชาชน 70% จะไม่เลือกผู้สมัครที่ซื้อเสียงนั้น ส่วนตัวขอย้ำว่าเรื่องนี้มีความสำคัญอย่างมาก เพราะหากผู้สมัครที่ได้รับเลือกเข้าสภา จากการซื้อสิทธิขายเสียง กระทำไม่สุจริตตั้งแต่ต้น ก็จะเห็นได้ว่าหากเข้ามาทำงานแล้วจะขาดความเป็นตัวเอง ทำในสิ่งผิด ซึ่งเป็นปัญหาของประเทศที่ไม่สามารถผ่านพ้นได้
"สิ่งที่เป็นกับดักติดหล่มตลอดก็ คือ ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน คิดว่าการป้องกันเรื่องเหล่านี้ ถือว่าเป็นหน้าที่ของพลเมืองทุกคน และในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นอีกครั้งที่บทบาทภาคประชาชน จะมาสารถหยุดยั้งปัญหานี้ได้ โดยเลือกคนที่สุจริตจริงๆ" น.ส.วทันยา ระบุ
น.ส.วทันยา ยังได้ประเมินทิศทางทางการเมืองหลังจากนี้ ก่อนการตัดสินคดีดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ในวันพรุ่งนี้ (30 ก.ย.) โดยไม่ว่าผลจะออกอย่างไร ในฐานะประชาชนก็น้อมยอมรับคำตัดสินของศาล แต่ไม่ว่าจะออกอย่างไร ในการทำงานภาครัฐหรือทางรัฐสภา ก็เตรียมเข้าสู่การเลือกตั้งอยู่แล้ว บทบาทส่วนพรรคการเมือง นักการเมือง รวมถึงรัฐบาล คงต้องตั้งใจทำงานนำพาพรรคการเมืองต่างๆ สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนต่อไป