สาวไส้ พระชาตรี พฤติกรรมมาเฟีย มีบอดี้การ์ด สั่งปิดวัด ตื๊บพระไม่ยอมเป็นพวก

ความคืบหน้าปมดราม่า ระหว่าง "แพรี่" อดีตพระมหาไพรวัลย์ วรรณบุตร กับ "พระชาตรี เหมพันธ์" เจ้าอาวาส วัดพุทธวิหาร ในรัสเซีย ที่มีการแฉว่า พระชาตรี เคย ยักยอกเงินวัดพุทธปัญญา จ.นนทบุรี ไป 4 ล้านบาท สมัยที่เป็นรักษาการเจ้าอาวาส ได้ไม่ถึง 4 เดือน ก่อนที่จะถูกเจ้าคณะตำบล สั่งปลดและถูกแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งกรณีดังกล่าว เจ้าคณะตำบลบางเขน ได้ยืนยันว่าเป็นเรื่อง รวมถึงมีเรื่องพระสงฆ์ทะเลาะทำร้ายร่างกายกันอีกด้วย (อ่านข่าว)

ล่าสุดวันนี้ (26 ก.ย.) ดราม่าเกี่ยวกับประเด็นพฤติกรรม "พระชาตรี" ที่วัดพุทธปัญญายังไม่จบลงเพียงเท่านั้น เมื่อ "พระอาจารย์ธวัชชัย" ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญา ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตนเป็นหนึ่งในพระ ที่ถูกทำร้ายร่างกายในช่วงที่พระชาตรี เป็นรักษาการเจ้าอาวาสที่วัดแห่งนี้ 

"พระอาจารย์ธวัชชัย" เล่าว่า หลังจากที่พระชาตรี ขึ้นมาเป็นรักษาการเจ้าอาวาส ทำให้พระสงฆ์ และฆราวาสในวัด แบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายพระชาตรีที่มาใหม่ กับฝ่ายเจ้าอาวาสองค์เดิม ต่อมา พระชาตรี เริ่มนำกลุ่มชายฉกรรจ์ ซึ่งเป็นคนนอกวัดเข้ามาในวัด พร้อมกับพระสงฆ์จากที่อื่น ๆ เข้ามาจำวัด จากนั้นจึงเริ่มใช้กำลังบังคับ ทั้งพระ ทั้งคน ในวัด ให้เลือกข้างไปอยู่กับฝ่ายพระชาตรี หากพระในวัดรูปใดขัดขืน ก็จะถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ใช้กำลังบังคับ ทำร้ายร่างกาย พระรูปไหนไม่ยอมก็ต้องปีนกำแพงวัดหลบหนีออกไป เพราะประตูหน้าวัดถูกปิดคล้องด้วยโซ่ เรียกได้ว่า ในช่วงที่พระชาตรี มาปกครองเหมือนสงครามกลางวัดย่อม ๆ 

พระที่ขัดขืนไม่ยอมเลือกข้าง ถูกทำร้ายร่างกาย ถูกรุมกระทืบภายในวัดด้วยกัน 3 รูป รวมทั้ง อาตมา ซึ่งมีตำแหน่ง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดด้วย ถูกกระบองตีเข้าที่ศรีษะ จนเป็นแผลปริแตกบวมช้ำ 

พระอาจารย์ธวัชชัย เปิดเผยอีกว่า หลังมีข่าวพระในวัดถูกทำร้ายร่างกาย และประตูวัดถูกปิดล็อกด้วยโซ่ทำให้ทางคณะสงฆ์ตำบล และคณะสงฆ์อำเภอ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่จะเข้าตรวจสอบภายในวัด แต่ถูกพระชาตรี สั่งชายฉกรรจ์คุมเชิงไว้หน้าประตูวัด พร้อมอ้างสิทธิ์ความเป็นรักษาการเจ้าอาวาส หากมีใครบุกเข้ามาในวัดจะถูกแจ้งความดำเนินคดี ในข้อหาบุกรุกยามวิกาล จนทำให้คณะสงฆ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องถอยกลับไปตั้งหลัก กระทั่งอีกสองสามวัน ทางคณะสงฆ์ตำบล จึงมีมติปลดพระชาตรี ออกจากการเป็นรักษาการเจ้าอาวาส แต่พระชาตรีถูกขับออกจากวัด จนกระทั่งกลับไปอยู่ที่วัดในรัสเซียตามเดิม จนกระทั่งมาเกิดประเด็นวิวาทะขึ้นอีก

พระอาจารย์ธวัชชัย เล่าถึงแผนการขึ้นเป็นรักษาการเจ้าอาวาสว่า ได้อาศัยความสนิทสนมกับเจ้าอาวาสองค์เก่า ที่เป็นคนบ้านเดียวกัน มาขออาศัยอยู่ที่วัดด้วย โดยอ้างว่า หนีหนาวมาจากรัสเซีย มาขอจำวัดด้วย จากนั้นใช้เวลาไม่นาน พระชาตรี ก็ใช้กำลังภายใน ปลดเจ้าอาวาสองค์เก่าได้สำเร็จ ขึ้นเป็นรักษาการเจ้าอาวาส จากนั้นก็เริ่มนำกลุ่มชายฉกรรจ์ และพระไม่มีสังกัดนอกวัด เข้ามาอาศัยอยู่ในวัด พร้อมกับสั่งติดกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามตรวจสอบพระที่อาศัยอยู่ในวัดตลอดเวลา 

ตลอดเวลาที่พระชาตรีเป็นรักษาการเจ้าอาวาส จะมีชายฉกรรจ์มาทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ด ติดตามพระชาตรีทุกฝีก้าว จนเมื่อมีมติคณะสงฆ์ สั่งปลดพระชาตรี วัดแห่งนี้จึงกลับมาสงบสุข พระในวัดที่ต้องลี้ภัยไปอยู่ที่วัดอื่น ๆ ก็พากันกลับมาอยู่ที่วัดตามเดิม จนกระทั่งเริ่มมีการตรวจสอบเงินในบัญชีของวัดจึงพบว่า พระชาตรีได้อาศัยกลวิธีเบิกถอนเงินของวัดออกไปใช้จำนวน 4 ล้านบาท เหมือนน้ำลดตอผุด

พระอาจารย์ธวัชชัย กล่าววอีก ในส่วนคดีทำร้ายร่างกายอาตมา สาเหตุมาจากมีพระในวัดรูปหนึ่ง ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ทำร้าย และหนีมาขอความช่วยเหลือที่กุฎิ อาตมาจึงพยายามห้ามปราม ไม่ให้กลุ่มชายฉกรรจ์ ซึ่งเป็นชาย 2 คน พระ 1 องค์ ทำร้ายร่างกายพระรูปนั้นอีก อาตมาจึงยกมือถือขึ้นมาเพื่อจะโทรขอความช่วยเหลือ ก็ถูกชายฉกรรจ์คนหนึ่งปัดมือถือตกพื้น จังหวะที่อาตมาก้มลงไปเก็บมือถือ จึงถูกทั้ง 3 คนรุมทำร้ายพร้อม ๆ กัน อาตมาหันไปเห็นเพียงครั้งเดียวว่า ถูกพระรูปนั้นใช้ไม้กระบอง ฟาดเข้ามาที่ศรีษะอย่างแรง จนได้บาดเจ็บ

เกิดเหตุอาตมาได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี จนเรื่องไปถึงศาล ซึ่งในเวลาต่อมาคู่กรณีคนดังกล่าว ซึ่งหนีคดีไปบวชเป็นพระ ให้การรับสารภาพในชั้นศาลว่า ได้ถูกพระชาตรีชักชวนให้มาอยู่วัดด้วยเพื่อหลอกใช้งาน จึงได้กราบขอขมากับอาตมา อาตมาจึงให้อภัยไป คดีความของอาตมาจึงถือว่า เป็นอันสิ้นสุดลง
 

ฟังเสียงผู้ช่วยเจ้าอาวาสแฉพฤติกรรมพระชาตรี