วันนี้ (22 ก.ย.65) นางฉันทณา แสงสุวรรณถาวร ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.กระบี่ พร้อมด้วยนายธนเดช บุญทิพย์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ต.เขาคราม และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ่าวนาง เข้าทำการควบคุมตัวพระพงศธร บุญช่วย อายุ 32 ปี พระลูกวัดทุ่งสันติธรรม หรือวัดบ้านทุ่ง ม.1 ต.เขาคราม หลังพบมีอาการคลั่งยาบ้า ข่มขู่ทำร้ายพระลูกวัดด้วยกัน และได้ทำการตรวจค้นภายในกุฎิที่พระรูปดังกล่าวอาศัยพบมีดปลายแหลมและมีดพร้า รวม 3 เล่ม เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้ นอกจากนี้ภายในกุฎิยังพบหินขนาดต่างๆอีกจำนวนมาก ซึ่งพระรูปดังกล่าวสะสมไว้ และบอกว่าเป็นหินวิเศษ
นายธนเดช บุญทิพย์ ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 06.00 น.ได้รับแจ้งจากพระลูกวัดทุ่งสันติธรรม หรือวัดบ้านทุ่งรูปหนึ่ง ว่า มีพระลูกวัดด้วยกัน ชื่อพระพงศธร อาละวาด เดินมาเคาะประตูกุฎิและไล่ให้ลูกวัดด้วยกันออกไปจากวัด เมื่อช่วงเวลาประมาณ ตี 2 หากไม่ออกไปก็ข่มขู่ว่า จะเจอดี ด้วยความกลัวพระลูกวัดที่ถูกข่มขู่จึงได้โทรแจ้งให้ตนทราบและเข้าไประงับเหตุ หลังทราบเรื่องก็ได้ประสานไปยัง สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกระบี่ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าตรวจสอบ แต่พบว่าพระบุญช่วย ได้ออกไปบิณฑบาต และไปเจอกับหน้าที่ตำรวจสายตรวจเขาคราม ก็มีปากเสียงกัน เมื่อกลับเข้ามาในวัด ทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว และขอตรวจสารเสพติด แต่พระรูปดังกล่าวบอกว่าไม่ต้องตรวจ ยอมรับว่าเสพยาบ้าจริง จนเกิดอาการหลอนและคลุ่มคลั่ง ได้เดินไปข่มขู่พระลูกวัดด้วยกัน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งให้เจ้าอาวาสทำการสึก
นายธนเดช กล่าวด้วยว่า เชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากการเสพยาเสพติดของพระรูปดังกล่าวจนหลอน คลุ้มคลั่ง ขู่จะทำร้ายพระลูกวัดรูปอื่นด้วยกัน เพราะทราบว่าไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกันแต่อย่างใด และด้วยนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ มีความเข้มงวดในการปราบปรามยาเสพติด และจากการสั่งการของนายชัยวุฒิ บัวทอง นายอำเภอเมืองกระบี่ ให้มีความเข้มงวดกวดขันกวาดล้างยาเสพติดให้หมดไปจากพื้นที่
นางฉันทณา กล่าวว่า ทางสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.กระบี่ ได้เข้ามาดูแลความเรียบร้อย ไกล่เกลี่ยเพื่อไม่ให้เกิดข้อพิพาทภายในวัด และช่วยเจ้าอาวาสดูแลจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ให้เกิดความวุ่นวายและเดือดร้อนกับประชาชนชาวบ้านในละแวกนี้ ในส่วนของการสึกพระที่กระทำผิด เป็นไปตามขั้นตอนของสงฆ์หรือเปล่งวาจาสึกด้วยตัวเอง แต่ทั้งนี้เจ้าอาวาสก็ต้องรับทราบว่าพระรูปดังกล่าวสึกแล้วและไม่สามารถที่จะอยู่ภายในวัดได้ต่อ และหากพระรูปดังกล่าวไม่สามารถออกไปจากพื้นที่ได้ ทางสำนักพุทธฯยินดีช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ตามความจำเป็น