21 กันยายน 2565 ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี รังสิต-นครนายก คลอง 7 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นางสาวอุไร อายุ 46 ปี แม่และพ่อได้พาลูกสาวอายุ 16 ปี ที่ถูกเพื่อนหลอกให้เปิดบัญชี และยึดบัตรประชาชน พร้อมกับนำข้อมูลส่วนตัวไปเปิดบัญชี แบบออนไลน์เป็นบัญชีม้าอีก 5 บัญชี โดยมีเงินเข้า 7 ล้านบาท ได้เดินทางเข้าพบ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิเพื่อเด็กและสตรีให้ช่วยเหลือทางด้านคดี
พร้อมกันนี้ นางสาวจิตติมา รอดเปรี้ยว อายุ 35 ปี ซึ่งถูกเพื่อนที่รู้จักกันให้เปิดซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือโดยเพื่อนบอกว่า จะได้ค่าเปิดซิมการ์ดซิมละ 100 บาท ตนเองจึงได้ไปชวนสามี กับลูกสาวมาเปิดซิมการ์ด รวมทั้งหมด 13 ซิม ต่อมามีหมายเรียกมาหาลูกสาวจากหลายสถานีตำรวจ ตนเองจึงมาขอความช่วยเหลือจากนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิเพื่อเด็กและสตรี ให้ช่วยเหลือทางคดีเช่นกัน
ทางด้านนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิเพื่อเด็กและสตรี กล่าวว่า วันนี้ได้มีครอบครัวทั้งสองครอบครัว และมีลูกสาวถูกหลอกเปิดบัญชีม้า และและซิมการ์ดโทรศัพท์ และทั้งสองครอบครัวเป็นมีลูกสาวเป็นเยาวชน อายุ 16 ปี ซึ่งทั้งสองครอบครัวไม่รู้เลยว่ามีขบวนการเปิดบัญชีม้าและซิมการ์ด ซึ่งรายแรกแม่ทำงานปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง และมีเพื่อนชักชวนให้เปิดซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือ ต่อมาก็ไปชวนสามี และลูกสาวด้วย ทั้งหมด 13 ซิม ลูกสาวเปิด 6 ซิม แม่เปิด 5 ซิม พ่อเปิดไป 2 ซิม รวมทั้งหมด 13 ซิม โดยได้ค่าเปิดซิมการ์ดล่ะ 100 บาท
ต่อมาได้มีหมายเรียกจากสถานีตำรวจทั้ง 11โรงพัก ว่าน้องและครอบครัว กระทำความผิดทั้งครอบครัว จึงมาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาหงสกุล และมีอีก 1 ครอบครัว ที่ลูกสาวรู้จักกันทางเฟสบุ๊ค ได้ทำการหลอก และบอกว่า จะไปหางานทำ แต่ต้องไปเปิดบัญชีธนาคาร ก่อนทางลูกสาวก็หลงเชื่อ และถูกยึดบัญชีธนาคาร และซิมการ์ดโทรศัพท์ไปด้วย
จากนั้นก็มีการเอาชื่อของน้องอายุ 16 ปี ไปเปิดบัญชีธนาคารอีก 5 บัญชี พอมาวันหนึ่ง ได้มีหมายเรียกมาหาน้องอายุ 16 ปี ทางแม่ก็ตกใจ ซึ่งทางมูลนิธิปวีณา ก็ต้องประสานพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. ให้เข้ามาดูแลเรื่องเยาวชน เพื่อที่จะได้นำคนทำผิดมาลงโทษ ซึ่งเด็กที่ถูกหลอกไปนั้น มีหมายเรียกจากสถานีตำรวจหลายท้องที่ จึงอยากฝากเตือนประชาชน และเยาวชนอย่าได้หลงเชื้อใครในการไปเปิดบัญชี หรือซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ก็จะประสานกระทรวงศึกษาธิการ ให้ครูผู้สอนช่วยให้ความรู้เกี่ยวกับกลโกงของมิจฉาชีพ ที่จะเข้ามาหลอกเยาวชนให้ไปกระทำความผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์