svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"สุเทพ"รอดคุก ศาลฎีกาฯ ตัดสินพ้นผิด"คดีโรงพักร้าง" ไม่เข้าข่ายผิดตามม.157

20 กันยายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"สุเทพ"พ้นผิด ศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอ่านคำพิพากษา คดีทุจริตโรงพักร้าง ตามที่ ป.ป.ช.กล่าวหา โดยพิพากษา ยกฟ้อง "สุเทพ-อดีตบิ๊ก ตร." กับพวกรวม 6 คน คดีทุจริตก่อสร้างโรงพัก

 

20 กันยายน 2565 เวลา 08.30 น "นายสุเทพ เทือกสุบรรณ"  อดีตรองนายกฯและผู้ร่วมก่อตั้ง"พรรครวมพลัง" เดินทางมายัง "ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง"(สนามหลวง)  เพื่อรับฟัง  การอ่านคำพิพากษ าคดีการก่อสร้างโรงพัก 396 แห่ง ตามที่ป.ป.ช.เป็นผู้ฟ้อง

 

ทั้งนี้เมื่อเวลาประมาณ 11.00  น. ศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้อ่านคำพิพากษา "คดีการก่อสร้างโรงพัก 396 แห่ง" ตามที่ป.ป.ช.เป็นผู้ฟ้อง โดยพิพากษายกฟ้องข้อกล่าวหา "นายสุเทพ"  อดีตบิ๊ก ตร.  กับพวกรวม 6 คนเนื่องจากเห็นว่าไม่มีความผิด  และไม่ได้ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151,157 

 

 

"สุเทพ"รอดคุก ศาลฎีกาฯ ตัดสินพ้นผิด"คดีโรงพักร้าง" ไม่เข้าข่ายผิดตามม.157

 

ทั้งนี้  ก่อนเข้ารับฟังคำตัดสิน  "นายสุเทพ" เผยความในใจที่ถูกสังคมพิพากษามาร่วม 10 ปีว่า วันนี้เป็นวันที่สำคัญมากของชีวิต ตนถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดจากคู่แข่งทางการเมือง แต่คนที่เป็นตัวตั้งตัวตีโครงการนี้ คือ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และศาลได้สั่งดำเนินคดีกับนายธาริตไปแล้ว หลังจากนั้น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้รับเรื่องต่อและดำเนินการสอบสวนตน ซึ่งอัยการตัดสินว่าไม่มีความผิด ส่งสำนวนคืนให้กับ ป.ป.ช. ดำเนินคดีกับตนต่อ

 

 

"สุเทพ"รอดคุก ศาลฎีกาฯ ตัดสินพ้นผิด"คดีโรงพักร้าง" ไม่เข้าข่ายผิดตามม.157

"ผมต่อสู้คดีด้วยข้อมูลข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน พยานบุคคล และกฎหมาย เพื่อพิสูจน์ว่าตนไม่ได้กระทำความผิดตามที่มีการกล่าวหา ส่วนศาลจะพิพากษาอย่างไร ผมให้ความเคารพกับศาล ไม่ว่าผลคำพิพากษาจะออกมาอย่างไร ผมน้อมรับ ถือว่าได้ต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่ ข้อกล่าวหาว่าตนทุจริตโครงการก่อสร้างโรงพัก เป็นปมในชีวิตมาหลาย 10 ปี ถ้าศาลพิพากษาออกมาเป็นคุณ ผมก็จะได้เกียรติยศและศักดิ์ศรีกลับมา"

 

"นายสุเทพ" ระบุด้วยว่า ป.ป.ช.กล่าวหาให้ตนเองเป็นจำเลยสังคม และมีประชาชนหลายส่วนที่เชื่อกับข่าวนี้ เมื่อถึงวันนี้จะหยุดเรื่องราวทั้งหมด

 

จุดเริ่มต้นของคดี

 

สำหรับคดีนี้ ป.ป.ช. เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง "นายสุเทพ เทือกสุบรรณ" อดีตรองนายกรัฐมนตรี, พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ อดีตรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ต.สัจจะ คชหิรัญ, พ.ต.ท.สุริยา แจ้งสุวรรณ์, บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด และนายวิศณุ วิเศษสิงห์ เป็นจำเลยที่ 1 - 6 กรณีร่วมฮั้วประมูล โครงการสร้างโรงพักทดเเทน โครงการก่อสร้างอาคารที่พัก (แฟลตตำรวจ) 

 

"สุเทพ"รอดคุก ศาลฎีกาฯ ตัดสินพ้นผิด"คดีโรงพักร้าง" ไม่เข้าข่ายผิดตามม.157

 

โดยระบุพฤติการณ์ สรุปว่า ระหว่างวันที่ 9 มิ.ย. 2552-18 เม.ย. 2556 จำเลยที่ 1 และที่ 2 เปลี่ยนแปลงแนวทางจัดซื้อจัดจ้างโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 หลัง จากราคาที่รวมเป็นภาค แยกสัญญามาเป็นการรวมจัดจ้างก่อสร้างไว้ที่ส่วนกลางสัญญาเดียว โดยจำเลยที่ 5 เป็นผู้ชนะการประกวดราคา โดยจำเลยที่ 6 ยื่นเอกสารบัญชีแสดงปริมาณวัสดุและราคาได้เสนอ ราคาต่ำอย่างผิดปกติ จำเลยที่ 3-4 ในฐานะคณะกรรมการประกวดราคา ไม่ตรวจสอบราคาที่ผิดปกติดังกล่าว และได้นำเอกสารบัญชีแสดงปริมาณวัสดุและราคานั้นไปใช้ในการขออนุมัติจ้างและใช้ประกอบ เป็นเอกสารแนบท้ายสัญญา

 

ต่อมาจำเลยที่ 5 ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญา เป็นเหตุให้"สำนักงานตำรวจแห่งชาติ"เสียหาย ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1, 2 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ลงโทษจำเลยที่ 3, 4 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151,157 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 10, 12 กับลงโทษจำเลยที่ 5, 6 ในฐานะผู้สนับสนุนการกระทำผิด

 

เมื่อวันที่ 17 ก.พ.2565 ที่ผ่านมา "ศาลฎีกาคดีนักการเมือง"ได้นัดพิจารณาครั้งแรก และได้อ่านอธิบายคำฟ้องพร้อมสอบคำให้การ ซึ่งจำเลยทั้ง 6 ให้การปฎิเสธข้อต่อสู้คดี ศาลจึงได้กำหนดวันนัดไต่สวนพยานโจทก์ 3 นัด ครั้งเเรกวันที่ 2, 30 มิ.ย.เเละวันที่ 7 ก.ค. นัดไต่สวนพยานจำเลยวันที่ 19, 21, 26 ก.ค. 2565 จนเสร็จสิ้นแล้ว จึงนัดคู่ความฟังคำพิพากษาในวันและเวลาดังกล่าว

 

"สุเทพ"รอดคุก ศาลฎีกาฯ ตัดสินพ้นผิด"คดีโรงพักร้าง" ไม่เข้าข่ายผิดตามม.157

 

กระทั่งเมื่อ วันที่ 20 ก.ย.65  "ศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง"  ได้อ่านคำพิพากษา ยกฟ้องข้อกล่าวหานายสุเทพ  กับพวกรวม 6 คน เนื่องจากเห็นว่าไม่มีความผิด  และไม่ได้ละเว้น การปฎิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151,157

 

 

logoline