เมื่อวันที่ 18 ก.ย.65 "น.ต.ศิธา ทิวารี" เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงกรณีสำนักงานกกต.ประกาศเตือนหลังวันที่ 24 ก.ย. แจกของเสี่ยงเข้าข่ายซื้อสิทธิขายเสียง ว่า จะเกิดคำถามว่าหาก กกต.แจ้งมาเช่นนี้ ชาวบ้านเดือดร้อนจะทำอย่างไร ในเมื่อนักการเมืองไม่กล้าที่จะดูแลชาวบ้านทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ดังนั้นต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะทำให้เต็มที่
"เรายอมรับว่าเมื่อประชาชนเดือดร้อน รัฐบาลไปดูแล เขาได้คะแนนอยู่แล้ว เรายินดีเพราะถือว่าประชาชนได้ประโยชน์ แต่ทุกครั้งที่ผ่านมาแม้จะได้คะแนน รัฐบาลยังช่วยเหลือพี่น้องประชาชนไม่เท่าที่ควร กลายเป็นนักการเมืองท้องถิ่นหรือพรรคการเมืองเกิดใหม่ แม้กระทั่งมูลนิธิหรือประชาชนร่วมกันทำเอง แสดงให้เห็นว่าคนที่ใช้งบประมาณแสนล้านยังสู้ประชาชนที่ไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว แต่มาร่วมแรงร่วมใจกันได้ ตรงนี้เป็นสิ่่งรัฐบาลต้องแก้ไข" น.ต.ศิธา กล่าว
"น.ต.ศิธา" ยังกล่าวอีกว่า ในเรื่องการเลือกตั้งครั้งนี้ คิดว่าการทำแบบนี้ ทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรมมากขึ้น แต่การดูแลประชาชนโดยที่ผู้สมัครไม่สามารถไปดูแล 6 เดือน ตรงนี้เชื่อว่าจะเป็นความลำบากของพี่น้องประชาชน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ทำให้ยากต่อการแนะนำตัวผู้สมัครหรือไม่ "น.ต.ศิธา" ระบุว่า ไม่ได้ทำให้ยากขึ้น การเข้าไปช่วยเหลือผู้สมัครอย่างที่คุณหญิงสุดารัตน์บอกว่า "เราคือการทำให้ ไม่ได้ทำเอา" เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำให้ประชาชนเราทำมาอย่างต่อเนื่อง เราต้องการมีพรรคการเมืองที่ทำประโยชน์ให้กับประชาชนจึงมีการก่อตั้งไทยสร้างไทยขึ้นมา
"ขณะนี้ กกต.สื่อสารบนโต๊ะชัดเจนแล้ว ใต้โต๊ะก็ต้องชัดเจน เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นคนที่ทำผิดกฏหมาย จะต้องมีการพิจารณาวินิจฉัยอย่างเป็นธรรม หน่วยงานของรัฐ องค์กรอิสระ หลายองค์กรที่ตั้งขึ้นมาในช่วงคสช.ยึดอำนาจ ทุกคนทำเพื่อตอบสนองผู้นำ ไม่ได้ตอบสนองพี่น้องประชาชน" น.ต.ศิธา กล่าว
เมื่อถามอีกว่าจะมีการควบรวมพรรคเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งหรือไม่ "น.ต.ศิธา" กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญคือเรื่องสูตรคำนวณ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ หารด้วย 100 และ 500 ซึ่งหากเป็นสูตรหาร 100 พรรคการเมืองขนาดเล็กจะได้รับผลกระทบและอาจไม่มี ส.ส. ในสภา
"ดังนั้น หากกฎหมายประกาศออกมาชัดเจน ว่า เป็นสูตรหาร 100 อาจจะได้เห็นการควบรวมของพรรคการเมืองหลายพรรค ซึ่งในส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จะเปิดตัวผู้สมัครเป็นระยะ และยืนยันเป็นพรรคขั้วกลางที่ไม่มีความขัดแย้งกับกลุ่มการเมืองใด" น.ต.ศิธา กล่าว