ความเป็นไปในตำหนักพระเจ้าชาร์ลสก่อนควีนสวรรคต

แจ็ค รอยสตัน ผู้สื่อข่าวสายราชสำนักของ  Newsweek เผยพระเจ้าชาร์ลสที่ 3 ทรงทราบว่า พระพลานามัยของพระราชชนนีทรุดหนักก่อนที่สาธารณชนจะรับรู้เพียงไม่กี่ชั่วโมง ขณะที่ทรงรับโทรศัพท์ด่วนตามด้วยเสียงฝีเท้าวิ่งไปตามห้องโถงที่ Dumfries House สถานที่ประทับของพระเจ้าชาร์ลสในสกอตแลนด์ รอยสตันบอกว่าหลังจากทรงรับโทรศัพท์ พระเจ้าชาร์ลสทรงมีรับสั่งให้ทุกคนอยู่ในความสงบ ก่อนจะทรงรีบเสด็จออกไป 

ตามที่มีรายงานข่าวว่า พระบรมวงศานวงศ์ชั้นสูงได้เข้าเฝ้าใกล้ชิดแท่นพระบรรทมของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน หลังมีข่าวเรื่องพระพลานามัยเสื่อมถอยลงเรื่อย ๆ ต่างจากข้อมูลของแหล่งข่าวก่อนหน้านี้ที่ว่า มีเพียงพระเจ้าชาร์ลสและเจ้าหญิงแอนน์ พระขนิษฐา ที่ทรงไปทันเวลา รอยสตันเปิดเผยต่อ The Royal Beat ว่า พระราชินีคามิลลากำลังประทานสัมภาษณ์ เจนนา บุช ฮาเกอร์ ผู้สื่อข่าวของ  Newsweek และได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งในห้องโถง แต่ตอนนั้นทราบเพียงว่าพระเจ้าชาร์ลสทรงได้รับการกราบทูลเกี่ยวกับพระพลานามัยของพระราชชนนี และหลังจากนั้นทุกคนได้รับการขอร้องให้อยู่ในความสงบ ก่อนที่พระเจ้าชาร์ลสและพระราชินีคามิลลาจะเสด็จโดยเฮลิคอปเตอร์ 

เหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.30 น.ของวันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน ซึ่งรอยสตันบอกว่า พวกเขาไม่ยอมรอ ไม่ให้เวลาพระเจ้าชาร์ชสแม้แค่ 1 หรือ 2 ชั่วโมง จึงค่อยแจ้งสาธารณชน หลังจากพระเจ้าชาร์ลสเสด็จถึงบัลมอรัล เจ้าหญิงแอนน์ทรงประทับอยู่ก่อนแล้ว ข้าราชสำนักต่างเร่งรีบจัดเครื่องบินสำหรับพระบรมวงศานุวงศ์องค์อื่น ๆ รวมทั้ง เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เอิร์ลแห่งเวสเซ็กส์และพระชายาโซฟี , เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก โดยมีเจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแห่งเวลส์ ส่วนแคทเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ทรงต้องดูแลพระโอรสและพระธิดาที่เพิ่งจะเริ่มปีการศึกษาใหม่ 

พระบรมวงศานุวงศ์กลุ่มนี้ที่ทรงอยู่ในอาการเครียด เสด็จถึงสกอตแลนด์เมื่อเวลา 16.00 น. และเจ้าชายวิลเลียมทรงขับรถยนต์ Range Rover นำทุกพระองค์เข้าสู่บัลมอรัลเมื่อเวลา 17.06 น. ส่วนสำนักพระราชวังบักกิงแฮมไม่ได้ยืนยันข่าวการสวรรคต ทำให้เชื่อว่าพระบรมวงศานุวงศ์กลุ่มนี้ เสด็จไม่ทันเวลาสวรรคต ส่วนเจ้าชายแฮร์รีเสด็จถึงเวลา 17.52 น. และในที่สุดก็มีการประกาศข่าวการเสด็จสวรรคตอย่างเป็นทางการว่าเกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.32 น.