svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“จตุพร-ทนายนกเขา” ประกาศเคลื่อนไหวต่อเนื่อง 18 - 30 ก.ย. ปมวาระ "บิ๊กตู่"

16 กันยายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“จตุพร-ทนายนกเขา” นัดเคลื่อนไหวต่อเนื่อง 18 - 30 ก.ย. ปมวาระ "บิ๊กตู่" แผ่นเสียงตกร่อง ยืนยันไม่กดดัน ศาล รธน. เชื่อหลัง 30 ก.ย. ทุกอย่างจะชัด พร้อมมองการเมืองกำลังเข้าสู่เงื่อนไขเดดล็อก

วันนี้ (16 ก.ย.) นายจตุพร พรหมพันธุ์ และ นายนิติธร ล้ำเหลือ พร้อมแกนนำคณะหลอมรวมประชาชน แถลงการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน ตั้งแต่วันที่ 18 - 30 ก.ย. ที่ศาลศาลรัฐธรรมนูญ จะมีการวินิจฉัยคดีวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม 

 

นายจตุพร กล่าวว่า คณะหลอมรวมฯ มีจุดยืนชัดไม่เอา 3 ป. ไม่เอารัฐประหาร แต่มุ่งสถาปนาอำนาจอธิปไตยของปวงชน ดังนั้นจึงกำหนดเคลื่อนไหวสอดคล้องกับจุดยืน และสถานการณ์ที่ศาลรัฐธรรมนูญ นัดวินิจฉัยการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ในวันที่ 30 ก.ย. นี้ เวลาบ่าย 3 โมง ซึ่งการเคลื่อนไหวของคณะหลอมรวมฯ จะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย. -  25 ก.ย.นี้ ในบรรยากาศจัดงานวิชาการ ที่ห้องประชุมอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา 
 

 

“จตุพร-ทนายนกเขา” ประกาศเคลื่อนไหวต่อเนื่อง 18 - 30 ก.ย. ปมวาระ "บิ๊กตู่"

โดยวันที่ 18 ก.ย. ตั้งแต่ 13.00 น. เป็นการเสวนาในหัวข้อ "นับหนึ่งประเทศไทย ด้วยอธิปไตยของปวงชน หลัง 30 ก.ย." มีวิทยากรมาร่วมเสวนา เช่น รศ.เจษฎ์ โทณะวณิก นักวิชาการทางกฎหมาย รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต นักวิชาการจากนิด้า นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง และนายบรรจง นะแส ตัวแทนจากภาคประชาชน 

 

ส่วนวันที่ 25 ก.ย. เวลา 13.00 น. มีปากฐาพิเศษหัวข้อ “อธิปไตยของปวงชน” โดย สุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ศ.ศิวลักษณ์ ส่วนในช่วงการเสวนาจะมีวิทยากร ประกอบด้วย ศ.ปราโมทย์ นาครทรรพ นายพิภพ ธงไชย ดร.สุริยะใส กตะศิลา และนายสาวิทย์ แก้วหวาน  

 

และในวันที่ 30 ก.ย. เวลา 17.00 น. คณะหลอมรวมฯ จะจัดแสดงพลังที่ราชประสงค์ โดยไม่กดดันการทำหน้าที่ของ ศาลรัฐธรรมนูญ และ พล.อ.ประยุทธ์ แต่จะกดดันหัวใจประชาชนในฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตย ดังนั้น เมื่อศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยเวลา 15.00 น. คณะหลอมรวมฯ จึงนัดชุมนุมเวลา 17.00 น. 

 

"วันนั้นพี่น้องประชาชนมีความรู้สึกอย่างไร ในฐานะที่เป็นเจ้าของประเทศขอเชิญชวนไปร่วมแสดงพลัง โดยเราเชื่อว่า 30 ก.ย. จะเป็นวันเริ่มต้นของทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งนรก สวรรค์ จะเป็นจริงกันในวันนั้น" 

 

 

นายจตุพร พรหมพันธุ์

นายจตุพร ยังกล่าวถึงสถานการณ์ของประเทศ ว่า ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งแทบไม่เคยลงพื้นที่ ยังต้องลงไปที่ระยอง ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรักษาการนายกฯ ไม่กี่วันก็โชว์เหนือกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ทุกรูปแบบ แต่อย่างไรก็ตาม คณะหลอมรวมฯ ยืนยันหยุดอำนาจ 3 ป. ไม่เอา 3 ป. ไม่เอา รัฐประหาร เพราะการสถาปนาอำนาจอธิปไตยของปวงชน ถือเป็นหน้าที่ ส่วนกรณีความขัดแย้งทางการเมืองของพรรคการเมืองนั้น เกิดขึ้นทั้งในพรรคร่วมรัฐบาล และพรรครัฐบาล จับมือกับฝ่ายค้าน ช่วยกันตอกลิ่มให้หนักยิ่งขึ้น โดย ปชป. - พปชร. ขัดแย้ง ภท. ว่าด้วยการคิด ดอกเบี้ยและค่าปรับ แล้วมาขยายหักลำกันอีกในกรณี พ.ร.บ.กัญชา - กัญชง ชนิดไม่ไว้หน้า ภท. ดังนั้น ความขัดแย้งนี้ อาจนำไปสู่โฉมหน้าใหม่ในวันที่ 30 ก.ย. ได้ชัดเจนว่า ฝ่ายการเมืองจะเดินหน้ากันอย่างไร แม้จะคิดถึงการได้เปรียบเสียเปรียบการเลือกตั้งก็ตาม แต่จะเกิดสภาวะการเดดล็อกการเมืองตามมา

 

"ทั้งหมดนี้ ดูเสมือนหนึ่งไม่มีอะไร แต่จะเป็นคำตอบ การเดินไปสู่ “เดดล็อกการเมือง” เราเคยพูดหลายครั้งว่า 3 ป.ออกแบบไม่ให้มีการเลือกตั้งตามกำหนด โดยมาจาก รธน.และ กฎหมายลูก ใครคิดว่า จะชนะถล่มทลาย แลนด์สไลด์ก็ตาม แต่ถ้ารัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ยังมี ม.91 ม.93 ม.94 ซึ่งขัดแย้งกัน เนื่องจากเป็นผลจากการแก้ รธน. จากบัตรใบเดียวมาเป็น 2 ใบ แต่ไม่แก้รัฐธรรมนูญใน ม.93 ม.94 ซึ่งเป็นหัวใจของบัตรใบเดียว

 

ทั้งนี้เชื่อว่าท้ายสุดต้องถูกส่งให้ ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความ และอาจทำให้ระบบเอา 100 หาร และมี ส.ส.เขต 400 เขต ต้องไปตายคาศาลรัฐธรรมนูญ หรือจะกลับมาระบบ 500 หาร ก็ขัดอีกมาตราหนึ่ง หรือจะแก้รัฐธรรมนูญ คงไม่ทันอายุของสภาผู้แทนฯ ชุดนี้  โดยจะสิ้นสุดในวันที่ 24 มี.ค. 2566 ดังนั้น จึงเป็นเดดล็อกการเมือง ที่ถูกออกแบบไว้สำหรับรักษาการนายกฯ

 

อีก อย่าง ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ สิ้นสุดการเป็นนายกฯ ในวันที่ 24 ส.ค. 65 จะมีผลลัพธ์มโหฬาร กับการทำผิดกฎหมาย ซึ่งจะเป็นปมทางการเมืองต่อไป การเคลื่อนไหวของคณะหลอมรวมฯ จึงมีจุดยืนอำนาจต้องเป็นของประชาชน ไม่เอา 3 ป. ไม่เอารัฐประหาร แต่มุ่งสถาปนาอำนาจอธิปไตยของปวงชน

 

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม

 

 

ด้าน นายนิติธร กล่าวว่า ปัญหาของประเทศ แสดงถึงความอ่อนแอทุกมิติของสังคม กรณีศาลรัฐธรรมนูญ เป็นปรากฏการณ์แปลกว่า ทำไมการพิจารณาคดี 8 ปี จึงมีข้อเท็จจริงแตกต่างคดีอื่นมากมาย ทั้งมีเอกสารหลุด มีการคาดคะเนสัดส่วนของเสียงชี้ขาดต่าง ๆ ออกมา รวมทั้งประเด็นศาลจะนำมาพิจารณา ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของศาลเอง อย่างไรก็ตาม ปัญหาขณะนี้คือ การไม่ยอมรับข้อเท็จจริงที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ มา 8 ปีแล้ว ดังนั้น การตีความของศาลควรมุ่งไปเป็นแบบการจำกัดอำนาจ ไม่ไช่การต่ออำนาจ สิ่งสำคัญหวังว่า ศาลจะพิจารณาทั้งหลักกฎหมายให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

 

พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ไม่ได้ใช้เฉพาะ ม.264 เท่านั้น เพราะเมื่อมีถ้อยคำใน ม.264 ว่า “เป็น” จึงได้บรรจุดเนื้อหา ม.158 และ ม.159 ประกอบด้วย พร้อมมาตราอื่นอีกหลายมาตรา ส่วนประเด็นสำคัญคือ การรักษาการของ รมต.ต่างๆ นั้น ขณะนี้มีข้อถกเถียงของสังคมใน 3 ทางคือ เป็นนายกฯ เริ่มปี 2557 กับปี 2560 และ ปี 2562 แต่เมื่อศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เพราะอาจฝ่าฝืน รธน. ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้าม จึงเกิดผลตามกฎหมาย คือ รมต.ทุกคนต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้ปลัดกระทรวงทำหน้าที่แทน

 

ถ้าศาลสั่งตามทางปี 2557 ทุกคนต้องพ้นจากหน้าที่และมีผลต่อการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ  ดังนั้น อย่าสร้างความสับสนต่อสังคม ด้วยเหตุนี้สังคมจึงล่มสลายในทุกมิติของประเทศ คณะหลอมรวมฯ กำลังบอกว่า ฝ่ายการเมืองที่คิดว่าชนะนั้น แพ้กันหมด จนประเทศล่มสลาย

 

 

นายนิติธร ล้ำเหลือ

logoline