แจงตั้งกฤษฎีกาชุดพิเศษ ชี้" 8ปีนายกฯ"ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว เป็นปัญหาประเทศ

เมื่อวันที่ 12 ก.ย.65 "นายวิษณุ เครืองาม"  รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการตั้งข้อสังเกตการตั้ง"กรรมการกฤษฎีกาคณะพิเศษ" เพื่อพิจารณาปม"นายกรัฐมนตรี 8 ปี" ขัดระเบียบกฤษฎีกาหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของ "พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา"  โดยยืนยันว่า ไม่ขัดระเบียบ และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นตำแหน่งทางราชการที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ถือเป็นปัญหาของประเทศ ซึ่งกรรมการฯ ตั้งมาตั้งแต่ ม.ค. 65 

ส่วนที่สังคมออนไลน์ตั้งคำถามว่า นายกฯ ขาดตอนหมายถึงอะไร "นายวิษณุ" กล่าวว่า ไม่ทราบ ขอให้รอฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ อย่าวิพากษ์วิจารณ์ พร้อมระบุนายกฯ ตามบทเฉพาะกาล ยึดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 264 และขอร้องสื่ออย่ามาถามเรื่องนี้ เพราะนั่นคือคำให้การที่ชี้แจง ถูกบ้างผิดบ้าง ก็ไม่รู้ แล้วแต่จะให้การไป และตอบไปตามประเด็นที่ผู้ร้องตั้งไว้  สุดท้ายจะเป็นอย่างไร ถูกหรือผิด ฟังขึ้นหรือไม่อยู่ที่ศาล โดยศาลอาจทิ้งประเด็นต่างๆก็ได้ อย่างบางประเด็นที่ให้การมา ตนเองก็ไม่เห็นด้วยที่จะต้องไปตอบทั้งหมด แต่เมื่อทีมกฎหมายเห็นว่า ตอบให้หมดทุกข้อก็ได้ 

เมื่อถามว่า เรื่องที่ไม่ควรตอบคืออะไร "นายวิษณุ" กล่าวว่า เรื่องนี้เคยมีคำวินิจฉัยของศาลมาแล้วว่า แบบนั้นแบบนี้ แต่ก็ไม่ตรงกับเรื่องปัจจุบัน แล้วจะชี้แจงทำไม แต่เมื่ออยากชี้แจงก็ชี้แจงไป อย่างมากก็เสมอตัวไม่ขาดทุน และย้ำอีกครั้งว่า ให้รอฟังศาล ไม่มีประโยชน์ที่มาวิพากษ์วิจารณ์

ขณะเดียวกันไม่ทราบว่า 14 ก.ย. นี้ ศาลรธน.จะวินิจฉัยหรือไม่ พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลยังไม่ได้วางแนวทางรับมือว่า หลังจากนี้จะเป็นอย่างไร เพราะถ้าวินิจฉัยว่า 8 ปี ไม่ได้เริ่มนับตั้งแต่ปี 57 "พล.อ.ประยุทธ์" กลับมาทำงานได้ในวันรุ่งขึ้น แต่ถ้าศาลนับตั้งแต่ปี 57 ซึ่งก็ครบตั้งแต่ 24 ส.ค. 65 ก็ไม่ต้องกลับมาโดย " พล.อ. ประวิตร "  นั่งรักษาการไป จะกี่วันก็แล้วแต่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ จะเรียกประชุมสภา และไม่มีอะไรโมฆะทั้งสิ้น 

"นายวิษณุ" ชี้แจงเพิ่มเติมอีกว่า ถ้าเริ่มนับตั้งแต่ปี 57 "พล.อ. ประยุทธ์" จะพ้นไป ซึ่งกระทบกับรัฐมนตรีสิ้นสุดไปด้วย แต่ก็รักษาการไปไม่มีปัญหา โดย "พล.อ.ประยุทธ์" สามารถรักษาการได้แต่มองว่า ไม่ควร ก็ให้ "พล.อ. ประวิตร" รักษาการไป จนกว่าจะเลือกนายกฯ คนใหม่

เมื่อถามว่า "พล.อ. ประวิตร"  รักษาการมีอำนาจยุบสภาหรือไม่ "นายวิษณุ" กล่าวว่า ตอบเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้วว่า ทฤษฎีมี แต่ในทางปฏิบัติไม่ใช่เรื่องง่าย พร้อมยกตัวอย่างสมัยพฤษภาทมิฬ  ที่"พล.อ.สุจินดา คราประยูร" ลาออกจากนายกฯ ซึ่งนายมีชัย ฤชุพันธ์ รองนายกฯ ในขณะนั้น รักษาการ และมีการเตรียมคิดที่จะยุบสภา ซึ่งมีอำนาจ แต่เมื่อคิดไปคิดมาก็ไม่ทำ ให้เขาไปหานายกฯคนใหม่ แล้วให้นายกฯ คนใหม่ยุบสภาดีกว่า ซึ่งก็ได้"นายอานันท์ ปันยารชุน" เข้ามา แล้วก็ยุบสภา 

"นายวิษณุ" ยอมรับอีกว่า วันหยุดสุดสัปดาห์ ได้พบแต่ไม่ได้พูดคุยกับนายมีชัย โดยพบในงานสังคมที่มีคนจำนวนมาก ไม่ได้คุยเรื่องนายกฯ 8 ปี และไม่จำเป็นต้องคุย พร้อมย้อนถามสื่อว่า ตนใกล้ชิดกับ นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขานุการกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ มาก ในฐานะผู้บังคับบัญชา ซึ่งนายมีชัยและนายปกรณ์ ต่างต้องชี้แจงศาล แต่สื่อสนใจว่านายมีชัยจะตอบอะไร แต่ไม่สนใจว่า"นายปกรณ์"จะตอบอะไร เมื่อถามย้ำว่าได้คุยกับ"นายปกรณ์" หรือไม่ นายวิษณุ บอกว่า ไม่ตอบ 

"ไม่มีปัญหา ไม่มีอะไรต้องเตรียมตัวเตรียมใจทั้งสิ้น ถ้าศาลบอกว่านับตั้งแต่ปี 57 ก็ครบ 8 ปี ครม.ก็สิ้นสุดลง แต่ก็รักษาการต่อไป พลเอก ประวิตร ก็รักษาการ จนกระทั่งประธานชวน เลือกนายกฯ คนใหม่ ซึ่งนายกฯ คนใหม่ต้องตั้ง ครม.ใหม่ และถวายสัตย์ปฏิญาณตน จึงจะทำให้ ครม. รักษาการพ้นไป"

ส่วนที่พรรคเพื่อไทย ไปหาเสียงว่า จะเอาคนที่รักกลับบ้าน ในทางกฎหมายเอากลับมาได้อย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ถามตนทำไม ไม่ได้เป็นคนพูดว่าจะเอากลับ คนที่จะเอากลับ เขาต้องคิดได้ว่าเขามีปัญญา และไม่รู้ว่า มีช่องกฎหมายหรือไม่ 

ส่วนที่ "พล.อ.ประวิตร" กล่าวที่ จ.ตาก ว่า พรรคพลังประชารัฐจะไม่ส่งผู้สมัคร ลงทับไลน์กับพรรคเศรษฐกิจไทย ถือเป็นการครอบงำ ชี้นำ มีความผิดหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่รู้ ไม่ได้ยิน และไม่ทราบว่า "พล.อ.ประวิตร" พูดอะไร ฟังจากสื่อไม่ได้จะวิพากษ์วิจารณ์กันไปใหญ่

คลิป >>>