"นายประพิศ จันทร์มา" อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักชลประทานที่ 11 ติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดเฝ้าระวังเพื่อเร่งระบายน้ำทั่วจังหวัดปทุมธานีและนนทบุรี เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำในพื้นที่รอบกรุงเทพมหานคร และเพิ่มพื้นที่รับน้ำในลำคลองในพื้นที่ 2 จังหวัดดังกล่าว
นอกจากนั้นได้กำชับให้ทุกสำนักทำงานเต็มที่เพื่อช่วยเหลือประชาชน ทั้งนี้สำนักชลประทานที่ 11 ได้มีการกระจายติดตั้งเครื่องสูบน้ำหลายจุดอาทิ 1.ประตูระบายน้ำ(ปตร.)เกาะเกรียง ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี 2.ปตร.สน.(สถานีสูบน้ำ)บางหลวง ต.บางหลวง อ.เมือง จ.ปทุมธานี
3.ปตร.สน.เชียงรากน้อย ต.เชียงรากน้อย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี 4.ปตร.สน.บางหลวงเชียงราก(วัดมะขาม) ต.บางกะดี อ.เมือง จ.ปทุมธานี 5. ถ.รามอินทรา(คลองลำผักชี) แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขต กรุงเทพมหานคร 6.ปตร.สร.บางหลวง ต.บางหลวง อ.เมือง จ.ปทุมธานี รวมถึงพื้นที่ตลาดบางบัวทอง พื้นที่คลองขุนนคร คลองถนนรถไฟ คลองเกาะดอน พื้นที่เขตอำเภอสามโคก เป็นต้น
นอกจากนั้น โครงการการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตเหนือ ดำเนินการติดตั้งพร้อมเดินเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว จำนวน 7 เครื่อง บริเวณประตูระบายน้ำปลายคลองระบายน้ำที่ 2 ประตูระบายน้ำปากคลอง 9 ซ้าย ประตูระบายน้ำปากคลอง 8 ซ้าย ประตูระบายน้ำปากคลอง 7 ซ้าย และประตูระบายน้ำปากคลอง 6 ซ้าย เพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะฝนตกหนักที่ผ่านมาในเขตพื้นที่ อำเภอคลองหลวง อำเภอหนองเสือ อำเภอธัญบุรีและอำเภอเมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี
อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวกัน "นายประพิศ" พร้อมด้วย "นายสุริยพล นุชอนงค์" รองอธิบดีกรมชลประทาน นายเอนก ก้านสังวอน ผู้อำนวยการสำนักเครื่องจักรกล นายชุติมันต์ สกุลพราหมณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 11 ดร.ธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา นายบุรีรัตน์ วงศ์บุรี เลขานุการกรม นายวิทยา แก้วมี ผู้อำนวยการกองแผนงาน และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ติดตามการระบายน้ำช่วยเหลือพื้นที่กรุงเทพมหานครฝั่งตะวันออกตอนล่าง บริเวณสถานีสูบน้ำโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อติดตามการบริหารจัดการน้ำและการทำงานของสถานีสูบน้ำต่างๆ ที่มีจุดเชื่อมต่อกับระบบระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร
จากสถานการณ์ฝนตกหนักสะสมในช่วงที่ผ่านมา โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร ได้เดินเครื่องสูบน้ำบริเวณแนวคลองชายทะเล 9 แห่ง เพื่อเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลโดยเร็ว ปัจจุบันมีการระบายน้ำรวมกันประมาณ 22.18 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.)ต่อวัน ซึ่งก่อนหน้านี้กรมชลประทานได้วางแผนเร่งระบายน้ำ เพื่อช่วยพื้นที่กรุงเทพมหานคร พร้อมระดมเครื่องจักร เครื่องมือ และเครื่องสูบน้ำ เข้าไปช่วยเหลือพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ ได้กำชับให้สำนักเครื่องจักรกล และสำนักงานชลประทานที่ 11 ตรวจสอบระบบชลประทาน สถานีสูบน้ำ และประตูระบายน้ำต่างๆ ที่มีจุดเชื่อมต่อกับพื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้มีความพร้อมในการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างเต็มศักยภาพ เตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ และเครื่องสูบน้ำ ให้พร้อมใช้งานและเข้าไปสนับสนุนการระบายน้ำได้ตลอดเวลา รวมทั้งได้เน้นย้ำให้เร่งรัดการดำเนินงานด้านต่างๆ ให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัดและมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับปริมาณฝนที่อาจตกลงมาเพิ่มได้อีกในระยะต่อไป จนกว่าจะสิ้นสุดฤดูฝน