“บิ๊กแจง”คุมตร.ไซเบอร์ 2 ปี ยับยั้งคอลเซ็นเตอร์ 9 พันผู้ต้องหา 8 พันคดี

พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) หรือ ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์  กล่าวถึงเรื่องวางเป้าหมายของ กองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ โดยเฉพาะการทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และถือว่าเกินคาด ทางกองบัญชาการมีตำรวจ 1,134 นาย จับกุมคนร้ายได้ ประมาณ 9,000 คน แบ่งเป็นคดี 8,000 คดี 

โดยสามารถยับยั้งอาชญากรรม อาทิ คอลเซ็นเตอร์ IPBBX ซึ่งจะทำให้หยุดยั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลงได้ โดยอาชญากรรมชนิดนี้จะคงอยู่กับคนไทยไปอีกนาน ตราบใดที่ยังมีเทคโนโลยี และการใช้โทรศัพท์มือถือ สำหรับในช่วง 2 ปี บช.สอท.ได้มุ่งมั่นในปณิทานที่วางไว้ คือ ทำให้ประชาชนอยู่ในโลกไซเบอร์ได้โดยไม่ตกเป็นเหยื่อ 

“สิ่งสำคัญที่อยากเตือน คือ ขอให้ทุกคนมีสติ ในการรับโทรศัพท์ หรือกดลิงค์จากช่องทางต่างๆ ให้กู้เงินทิพย์ การลงทุนต่างๆในโลกไซเบอร์ ทั้งคริปโตฯ และแชร์ลูกโซ่ ไม่มีจริง มีคำที่ตนใช้เป็นประจำคือ ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน และ ไม่กลัว แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่โลภ ที่จะเห็นการกู้เงินฟรี ไม่มีดอกเบี้ย และไม่หลง หรือโรแมนสแกม ที่มีกลุ่มผู้เสียหายสูงอายุ 40 ปีขึ้นไป"

ทั้งนี้ทางตำรวจพร้อมจะเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน หากมีปัญหาหรืออยากได้รับการช่วยเหลือ สามารถแจ้งได้ที่ 1441 , 081-8663000 หรือ www.thaipoliceonline.com จะมีเจ้าหน้าที่พร้อมให้บริการประชาชนตลอดเวลา

สำหรับผลการปฏิบัติงานในรอบ 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2563 ถึง วันที่ 8 กันยายน 2565 รวม 626 วัน สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 7,703 คดี มีผู้ต้องหา 8,650 ราย มีมูลค่าความเสียหาย 9,560 ล้านบาท

ในส่วนอำนาจรับผิดชอบของ บช.สอท.นั้น มีในส่วนของ คดีข่าวปลอม,คดีที่เข้าถึงระบบ หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ผู้อื่นโดยมิชอบ , คดีหลอกให้รักแล้วลงทุน , คดีซื้อสินค้าแต่ไม่ได้รับสินค้า (เป็นขบวนการ หรือมีผู้เสียหายจำนวนมากหลายพื้นที่) ,คดีหลอกให้กู้แต่ไม่ได้เงิน , คดีหลอกให้ทำงานออนไลน์ , คดีข่มขู่ให้เกิดความกลัว (call center) , คดีหลอกให้ลงทุนในรูปแบบต่างๆ

ขณะที่คดีที่ได้รับแจ้งทางออนไลน์ นับตั้งแต่มีการเปิดศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม - 31 สิงหาคม รวม 184 วัน พบว่ามีการรับแจ้งความในคดีอาชญากรรมออนไลน์กว่า 77,771 เรื่อง ตกเฉลี่ยวันละ 422 เรื่อง

โดยคดีที่รับแจ้งมี ดังนี้ 1.ซื้อสินค้าแต่ไม่ได้รับสินค้า 28,837 เรื่อง คิดเป็น 37.11 % , 2.หลอกให้ทำงานออนไลน์ 10,008 เรื่อง คิดเป็น 12.88 % , 3.หลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน 8,503 เรื่อง คิดเป็น 10.94 % , 4.หลอกให้ลงทุนในรูปแบบต่างๆ 8,220 เรื่อง คิดเป็น 10.58 % , 5.ข่มขู่ให้เกิดความหวาดกลัว 5,096 เรื่อง คิดเป็น 6.56 % ,

6.ปลอมโปรไฟล์เพื่อหลอกยืมเงิน 1,950 เรื่อง คิดเป็น 2.51 % , 7.หลอกให้รักแล้วลงทุน 1,756 เรื่อง คิดเป็น 2.26 % , 8.ซื้อสินค้าแต่ไม่ตรงตามโฆษณา 1,146 เรื่อง คิดเป็น 1.47 % , 9.แชร์ลูกโซ่ 1,068 เรื่อง คิดเป็น 1.37 % , 10.หลอกให้รักแล้วให้โอนเงิน (Romance Scam) 663 เรื่อง คิดเป็น 0.85 % , 11.หลอกลวงเกี่ยวกับเงินดิจิทัล 101 เรื่อง คิดเป็น 0.17 % รวมมูลค่าความเสียหาย ประมาณ 3,400 ล้านบาท