เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 65 "นายศรีสุวรรณ จรรยา" เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฎเป็นการทั่วไป โดยสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้รายงานสอดคล้องต้องกันว่าเมื่อวันที่ 3 ก.ย.65 ที่ผ่านมา น.ส.วรินทร์ทิพย์ วัชรวงษ์ทวี หรือ เสียวเป้า ได้แถลงข่าวเปิดตัว "พรรคไฟเย็น" และได้เดินทางไปยื่นจัดตั้งและจดทะเบียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 5 ก.ย.65 แล้วนั้น
การที่ น.ส.ววรินทร์ทิพย์ ได้แถลงว่ามีประชาชนผู้รักในประชาธิปไตยได้รวมตัวกันจัดตั้งเป็นพรรคไฟเย็น ซึ่งนโยบายพรรคมีเพื่อตอบสนองความเป็นประชาธิปไตยในแดนดินอันไร้ซึ่งสิทธิและเสรีภาพ และทางพรรคไฟเย็นได้แถลงเปิดนโยบายพรรคออกสู่สาธารณะชนซึ่งเบื้องต้นมี 8 ข้อ คือ 1) ปล่อยนักโทษการเมือง 2) เขียนธรรมนูญใหม่ฉบับประชาชน 3) ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์และราชวงศ์ 4)ปฏิรูปกองทัพ ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร
5)ปฏิรูปการศึกษา 6)ให้สัตยาบัน International Criminal Court หรือ ICC หรือชื่อไทยคือ ศาลอาญาระหว่างประเทศ เป็นการลงนามความผิดอาญาระหว่างประเทศ ๔ ฐาน คือ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์, อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ, อาชญากรรมสงคราม, และอาชญากรรมอันเป็นการรุกราน 7)กระจายอำนาจ ไม่มีการรวมศูนย์อำนาจ และ 8 )ยกเลิกกฎหมายมาตรา 112 นั้น
นโยบายของพรรคดังกล่าวชี้ให้เห็นโดยชัดแจ้งว่า อาจไม่สอดคล้องกับ ม.45 ของรัฐธรรมนูญ 2560 และอาจเข้าข่ายขัดหรือแย้งต่อ ม.13(3) ประกอบ ม.14 (1) (2) และ(3) แห่ง พรป. ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ที่บัญญัติไว้ชัดเจนว่า... ข้อบังคับพรรคการเมืองจะเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และต้องไม่เปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ, ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และอาจก่อให้เกิดความแตกแยกระหว่างชนในชาติมิได้
ดังนั้น การที่พรรคไฟเย็นประกาศนโยบาย ซึ่งจะต้องนำไปเขียนไว้ในข้อบังคับพรรคว่า จะปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์และราชวงศ์ และยกเลิกกฎหมายมาตรา 112 น่าจะเข้าข่ายเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และอาจก่อให้เกิดความแตกแยกระหว่างชนในชาติได้
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงได้ยื่นหนังสือต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองและคณะกรรมการการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 5 ก.ย.65 ที่ผ่านมา เพื่อคัดค้านการขึ้นทะเบียนเพื่อจัดตั้งพรรคดังกล่