svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

สสส. เผย 4 วิธีป้องกันลืมเด็กไว้ในรถ เรื่องใหญ่วันนี้ที่ผู้ใหญ่ไม่ควรมองข้าม

31 สิงหาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิด 4 วิธี 4 แนวทางสำคัญ เพื่อป้องกันการลืมเด็กไว้ในรถ เรื่องใหญ่ เรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ย้ำ 4 กฎเหล็กห้ามทิ้งเด็กไว้ในรถโดยลำพังอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันการสูญเสียที่ไม่อาจประเมินค่าได้ในภายหลัง

จากกรณีข่าวเศร้า ที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ลาสุดกรณีเด็กติดอยู่ในรถแล้วเสียชีวิต นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ ทุกครั้งที่เกิดขึ้นนั่คือความการสูญเสียที่สามารถป้องกันได้ถ้าไม่ประมาท ทุกฝ่ายต้องพร้อมใจหาทางออก และถึงคราวที่จะต้องทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง!! 

โดย ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก สสส.(สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) : ThaiHealth เผยแพร่ข้อมูล ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี Child Safety Promotion and Injury Prevention Research Center (CSIP) ที่เคยทำไว้เมื่อปี 2565

รศ.นพ. อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ หัวหน้าศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มีคำแนะนำสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองในการป้องกัน ลืมเด็กไว้ในรถ 4 วิธี ดังนี้ 

4 วิธีป้องกันลืมเด็กไว้ในรถ เรื่องใหญ่วันนี้ที่ผู้ใหญ่ไม่ควรมองข้าม

 

 

1.ห้ามทิ้งเด็กไว้ในรถโดยลำพังเด็ดขาด

ไม่ว่าคุณจะต้องไปทำธุระนอกรถเร็วหรือช้า ควรนำเด็กลงจากรถไปด้วยทุกครั้ง แม้เด็กจะหลับอยู่ก็อย่ากังวลว่า จะเป็นการปลุกลูก กลัวลูกงอแง

แต่คุณต้องเอาลูกลงจากรถด้วยทุกครั้ง ไม่ใช่เพียงความปลอดภัยเท่านั้น แต่เป็นการฝึกให้ลูกได้เรียนรู้ว่า ทุกครั้งที่จอดรถ ลูกต้องลงจากรถ

 

2.แง้มหน้าต่างรถไว้แล้วปล่อยให้เด็กอยู่ในรถก็ไม่ได้

ด้วยความเข้าใจผิดๆ ที่ว่า การเปิดแง้มหน้าต่างไว้ในรถแล้วปล่อยให้เด็กอยู่ภายในจะทำให้เด็กไม่ขาดอากาศหายใจแล้วจะปลอดภัย 

แต่ความจริงแล้วเด็กเสียชีวิตเพราะความร้อนสูง ไม่ว่าจะจอดกลางแดดหรือในที่ร่ม แต่เนื่องจากสภาพอากาศร้อนในปัจจุบันเหมือนในช่วงนี้ ไม่กี่นาทีเด็กต้องแย่แน่ ๆ นี่ยังไม่นับรวมการปล่อยเด็กทิ้งไว้ในรถลำพังก็อาจถูกลักพาตัวได้เช่นกัน

3. กรณีที่ต้องให้ลูกติดรถไปกับผู้อื่น

หมั่นตรวจสอบด้วยการโทรศัพท์ไปสอบถามเป็นระยะว่า ตอนนี้อยู่ที่ไหนอย่างไร เพราะการที่ต้องฝากลูกไว้กับผู้อื่น ซึ่งต้องเข้าใจว่า เขาไม่ได้ดูแลลูกเราเป็นประจำ อาจทำให้หลงลืมหรือเผอเรอได้ และถ้าเป็นผู้ที่มีความใกล้ชิดกันก็ควรจะพูดกันอย่างตรงไปตรงมาว่าอยู่กับเด็กเล็กต้องระมัดระวังด้วย 

แต่ทางที่ดีไม่ควรปล่อยลูกวัยเด็กเล็กฝากไว้กับผู้อื่น ควรจะต้องมีพ่อแม่หรือคนในครอบครัวประกบเด็กเล็กด้วยทุกครั้ง

 

4. กรณีที่เป็นรถโรงเรียน

พ่อแม่ต้องมั่นใจก่อนว่า จะตัดสินใจใช้บริการรถโรงเรียนของโรงเรียนหรือไม่ ความจริงไม่อยากแนะนำให้ลูกวัยเด็กเล็กใช้บริการรถโรงเรียน แต่ก็เข้าใจดีว่าด้วยสภาพการจราจรและวิถีชีวิตอาจทำให้ต้องตัดสินใจใช้บริการรถโรงเรียน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถตู้ทึบ 

ฉะนั้น คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองที่ดูแลเด็ก ก็จะต้องดูถึง มาตรการความปลอดภัยของรถโรงเรียนด้วย ไม่ใช่ดูเฉพาะสภาพรถว่าเป็นอย่างไรเท่านั้น แต่ต้องดูถึงเรื่องผู้ที่ต้องเป็นคนไปรับส่งลูกว่ามีใครบ้าง คนขับรถเป็นอย่างไร 

4 วิธีป้องกันลืมเด็กไว้ในรถ เรื่องใหญ่วันนี้ที่ผู้ใหญ่ไม่ควรมองข้าม

คนที่ติดรถเป็นคุณครูระดับปฐมวัย มีความเข้าใจเรื่องเด็กเล็กไหม เวลารับส่งเด็กขึ้นรถลงรถมีการเช็คชื่อเด็กหรือไม่ แล้วมาตรการของโรงเรียนเป็นอย่างไร เมื่อเด็กถึงโรงเรียนแล้วมีการดับเบิ้ลเช็กอีกครั้งหรือไม่??

สิ่งที่ต้องตระหนักอย่างยิ่งก็คือ ผู้ที่ใกล้ชิดเด็กเล็กทั้งหลายต้องมีความระมัดระวังมากกว่าปกติหลายเท่า เพราะต้องคิดเสมอว่า เด็กเล็กยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองเรื่องความปลอดภัยได้ เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ต้องไม่ประมาทแม้เพียงเสี้ยววินาที


เน้นย้ำว่า ผู้ปกครองห้ามทิ้งบุตรหลานไว้ในรถที่จอดกลางแจ้งอย่างเด็ดขาด ควรนำเด็กลงจากรถไปด้วยทุกครั้ง ไม่ควรเปิดแง้มหน้าต่างไว้แล้วปล่อยให้เด็กอยู่ภายใน เพราะการแง้มหน้าต่างรถไม่ได้ช่วยลดอุณหภูมิภายในรถ ซึ่งสาเหตุแท้จริงของเด็กเสียชีวิตไม่ได้มาจากขาดอากาศหายใจเพราะขณะที่การจอดรถในที่ร่ม เด็กก็อาจเสียชีวิตจากความร้อนที่สูงขึ้นได้เช่นกัน

อีกหนึ่งข้อมูลดีๆ ที่น่าสนใจ จากทาง ศูนย์เฝ้าระวังโรคของสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค ได้เเนะนำวิธีการรับมือและแนวที่น่าสนใจสำหรับบรรดาผู้ปกครอง เกี่ยวกับประเด็น : วิธีสอนลูกเมื่อเกิดเหตุการณ์ลืมเด็กไว้ในรถ ต้องทำอย่างไร

โดยมีสาระที่น่าสนใและเห็นว่ามีประโยชน์จึงขอนำมาฝากคอข่าวและบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องกับ "เด็ก" อนาคตของชาติ..กันอีกสักครั้ง!! 

..

  • อันดับแรก สอนให้ลูกตั้งสติ ไม่ต้องกลัว เพื่อแก้ไขปัญหา
  • สอนลูกให้รู้จักช่วยเหลือตัวเอง โดยการให้ลูกบีบแตรรถ หรือเปิดกระจกเพื่อขอความช่วยเหลือ (กรณีที่เสียบกุญแจหรือสตาร์ทรถทิ้งไว้) 
  • สอนลูกให้รู้จักปลดล็อกประตู เมื่อติดอยู่ด้านใน 
  • เคาะกระจก เรียกคนมาช่วย และตะโกนขอความช่วยเหลือจากคนข้างนอก

 3 ข้อควรจำ สำหรับครู คนขับรถ และผู้ปกครอง  เพื่อป้องกันการลืมเด็กในรถ “นับ ตรวจตรา อย่าประมาท” 

  • นับ จำนวนเด็กก่อนขึ้นและหลังลงจากรถทุกครั้ง  เมื่อเด็กลงจากรถเพื่อจะเข้าโรงเรียน ครูพี่เลี้ยงควรเช็กชื่ออีกครั้ง อย่าคิดว่าเสียเวลา เพื่อให้แน่ใจ เพื่อให้มั่นใจว่ามีจำนวนเด็กขึ้นรถและลงรถเท่ากัน เป็นการตรวจสอบย้ำว่าไม่มีเด็กคนไหนถูกลืมทิ้งไว้บนรถ เพื่อความปลอดภัยเต็มร้อย 
  • ตรวจตรา ก่อนล็อคประตูรถ ตรวจดูให้ทั่วรถ เมื่อเด็กๆ ลงจากรถครบแล้วควรเดินตรวจภายในรถอีกครั้งหนึ่ง เพื่อตรวจสอบว่ามีเด็กคนไหนหลับหรือหลบอยู่โดยที่ครูไม่ทันสังเกตหรือไม่ รวมถึงจะได้สามารถตรวจสอบสิ่งของที่ลืมไว้บนรถด้วย
  • อย่าประมาท อย่าทิ้งเด็กไว้เพียงลำพัง แม้ว่าจะลงไปทำธุระเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ ก็ตาม  อุ้มหรือพาเด็กลงจากรถด้วยทุกครั้ง ไม่ว่าคุณจะคิดว่าลงรถไปเพื่อซื้อของเล็กน้อย หรือเพียงแต่เดินไปเก็บของที่กระโปรงหลังรถ เพราะเด็กมักซุกซนและไม่รู้ระบบภายในรถ เด็กอาจจะกดเซ็นทรัลล็อก เบรกมือ หรือเหยียบคันเร่ง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ รวมถึงช่วงเวลาอากาศร้อนๆ อาจทำให้เด็กเกิดอาการช๊อค หมดสติ เพราะขาดอากาศหายใจได้นะคะ

 

 

4 วิธีป้องกันลืมเด็กไว้ในรถ เรื่องใหญ่วันนี้ที่ผู้ใหญ่ไม่ควรมองข้าม

หากพบเห็นเด็กถูกลืมไว้ในรถ ขอให้เรียกหาเจ้าของรถ เพื่อให้มาเปิดรถโดยเร็วนะคะ ถ้ากรณีที่ไม่พบเจ้าของรถ ก็ต้องขอให้คนรอบข้างช่วยเหลือค่ะ และรีบโทร.1669 ขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพ 

logoline