ความคืบหน้าคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นำกำลังบุกเข้าช่วยเหลือหญิงสาววัย 20 ปี ซึ่งถูก นายวีรภัทร ทำทิพย์ อายุ 27 ปี ซึ่งอ้างตัวเป็นหน้าที่ตำรวจยศสิบตำรวจ สังกัดชุดปฎิบัติการพิเศษ ที่รู้จักผ่านแอพพลิเคชั่นหาคู่ นัดหมายให้ไปพบที่บ้านพัก ก่อนจะกักขังหน่วงเหนี่ยวและข่มขืนผู้เสียหาย ซึ่งหญิงสาวแอบใช้โทรศัพท์ติดต่อขอความช่วยเหลือจากญาติ จนสามารถติดตามไปช่วยเหลือได้สำเร็จ (อ่านข่าว)
ล่าสุด ช่วงบ่ายวันนี้ (29 ส.ค.) พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผู้กำกับการ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมพนักงานสอบสวน ได้ควบคุมตัว นายวีรภัทร ออกจากห้องขังมาสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมคือ แอบอ้างใช้ยศตำรวจโดยไม่มีสิทธิ์ อีกหนึ่งข้อหา
จากการสอบถาม นายวีรภัทร ให้การว่า ไม่ได้ข่มขืนผู้เสียหาย และผู้เสียหายเป็นฝ่ายเดินทางมาหาเหมือนปกติ จากนั้นได้ขอค้างที่บ้านเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งตนเองไม่ให้ค้างและให้กลับบ้าน แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมกลับ ตนเองยืนยันว่าไม่เคยอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่บริษัทที่ส่วนตัวทำงานเป็น รปภ.อยู่ เป็นผู้ทำบัตรใส่ยศ ส.ต.ท.ให้ ตนเองได้ทักท้วงไปแล้ว แต่ทางบริษัทบอกให้พกไว้ เผื่อเวลามีปัญหาจะได้อำนวยความสะดวกและปลอดภัย ไม่มีปัญหาใด ๆ ตนเองซึ่งทำหน้าที่เป็นครูฝึก รปภ. กับสายตรวจ รปภ. ให้กับบริษัท เห็นว่าทางบริษัททำบัตรแบบนี้มาให้ใช้ ตนเองก็เลยใช้บัตรแบบนี้มาโดยตลอด
ด้าน พ.ต.อ.พฤฒ ผู้กำกับการ สภ.บางบัวทอง กล่าวว่า ตอนนี้ทางพนักงานสอบสวนยังไม่ได้สอบปากคำผู้ต้องหาจนแล้วเสร็จ เป็นเพียงการพูดคุยสอบถามเบื้องต้น ซึ่งแม้ผู้ต้องหารายนี้จะให้การว่า ฝ่ายผู้หญิงยินยอมมาหาเอง และเคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันมาก่อน ก็เป็นเรื่องของผู้ต้องหาที่จะให้การ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรอผลตรวจจากแพทย์มายืนยันในคดีต่อไป และจากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหารายนี้ พบว่า มีประวัติถูกจับกุมในคดียาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง โดยมีอาชีพจริงเป็น รปภ. ของบริษัทแห่งหนึ่ง และจากพฤติกรรมเชื่อว่า น่าจะใช้ยศตำรวจไปแอบอ้างในลักษณะนี้มาหลายครั้ง