อันตูนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ย้ำเตือนถึงอันตรายจากการสู้รบใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซาปอริชเซีย ในภาคใต้ของยูเครน ระหว่างการพบหารือกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน และประธานาธิบดีเรเจ๊ป ไตยิบ แอร์ดวน ของตุรกี ที่เมืองลวีฟของยูเครนเมื่อวันพฤหัสบดี
กูแตร์เรส ซึ่งเยือนยูเครนเป็นครั้งที่สองนับจากรัสเซียบุกยูเครนเมื่อเดือน ก.พ. บอกว่า ยุทโธปกรณ์และทหารควรถูกถอนออกไปจากรอบโรงไฟฟ้า และหลีกเลี่ยงการส่งทหารและอาวุธเขาไปในพื้นที่อีก โดยพื้นที่นี้จำเป็นต้องเป็นเขตปลอดทหาร และเตือนว่า “ความเสียหายใด ๆ ต่อซาปอริชเซียเท่ากับการฆ่าตัวตาย” และผู้นำตุรกี บอกด้วยว่า เขากลัวจะเกิดหายนะแบบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลในอดีต
ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าซาปอริชเซีย ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และถูกกองทัพรัสเซียยึดไว้ได้ตั้งแต่เดือน มี.ค. ถูกยิงถล่มด้วยปืนใหญ่อย่างหนักหน่วง แต่ทั้งยูเครนและรัสเซียกล่าวโทษว่าการโจมตีเป็นฝีมือของอีกฝ่าย
ขณะที่เซเลนสกี กล่าวภายหลังการหารือว่า เขาเห็นด้วยกับข้อเสนอที่ให้คณะผู้ตรวจสอบจากสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ IAEA เข้าควบคุมสถานการณ์ที่โรงไฟฟ้าเพื่อรับประกันความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์ และสนับสนุนข้อเรียกร้องให้กูแตร์เรสให้พื้นที่รอบโรงไฟฟ้าเป็นเขตปลอดทหาร
แต่ที่ผ่านมารัสเซียปฏิเสธข้อเรียกร้องให้กำหนดเขตปลอดทหารที่โรงไฟฟ้าแห่งนี้ และแม้ทหารรัสเซียยึดโรงไฟฟ้าไว้ได้ พลเรือนยูเครนยังเป็นฝ่ายควบคุมการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า
ล่าสุดอิวาน เนชาเยฟ รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงต่างประเทศรัสเซีย แถลงปฏิเสธข้อเสนอกำหนดเขตปลอดทหารที่โรงไฟฟ้าซาปอริซเซีย โดยบอกว่า การกระทำดังกล่าวทำให้โรงไฟฟ้าตกอยู่ในความเสี่ยงยิ่งขึ้น